18-Oct-2023 อ่าน : 264 คน
เนื้องอกที่ไต เป็นเรื่องที่พบบ่อยมากขึ้นในสังคมปัจจุบัน เนื่องมาจากการเข้าถึงการตรวจสุขภาพที่ง่ายขึ้น เครื่องมือทางรังสีในการวินิจฉัยทันสมัย การตรวจคัดกรองหรือการวินิจฉัยจึงแม่นยำมากขึ้น ซึ่งเนื้องอกที่พบนั้นมีทั้งที่ไม่ใช่มะเร็งและเนื้องอกมะเร็ง
เนื้องอกที่ไตชนิดไม่ร้ายแรงที่พบบ่อย คือ “ถุงน้ำที่ไต” ส่วนใหญ่ไม่อันตราย มักพบจากการตรวจอัลตร้าซาวด์โดยบังเอิญ ไม่ต้องทำการรรักษา แต่ยังมีความจำเป็นต้องประเมินความเสี่ยงของมะเร็งไตที่ซ่อนอยู่ในถุงน้ำที่ไตบางชนิด ซึ่งทำการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จะสามารถแยกถุงน้ำได้ออกเป็นหลายชนิด และสามารถแยกก้อนเนื้อออกได้ชัดเจน
เนื้องอกที่ไตชนิดไม่ร้ายแรงอื่นๆ ที่พบบ่อยคือ Angiolipoma (AML) เนื้องอกของไขมันหลอดเลือดและกล้ามเนื้อเรียบ เนื้องอกชนิดนี้มักจะมีการฉีกขาดของหลอดเลือดเมื่อขนาดใหญ่กว่า 4 ซม. ทำให้เกิดอันตรายและภาวะแทรกซ้อนได้ จึงต้องทำการักษาโดยการผ่าตัดออกหรือทำให้ฝ่อลง แต่ถ้าขนาดเล็กใช้วิธีการเฝ้าระวังขนาดเป็นระยะๆ โดยอัลตร้าซาวด์
เนื้องอกที่ไต “มะเร็งไต” เป็นโรคที่พบได้ไม่มากเมื่อเทียบกับมะเร็งอื่นๆ โดยพบผู้ป่วยมะเร็งไต 1.6 รายต่อประชากรแสนคน โดยพบผู้ป่วยเพศชายมากกว่าเพศหญิง และมักพบโรคนี้ในผู้ป่วยอายุ 50-70 อย่างไรดี แม้ว่าจะพบโรคมะเร็งไตน้อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอันตราย เซลล์เหล่านี้จะแบ่งตัวอย่างควบคุมไม่ได้และหากไม่ได้รับการรักษาก็จะแพร่กระจายออกไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ปอดและกระดูก
ปัจจัยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคมะเร็งไตแต่พบว่าปัจจัยเสี่ยงดังต่อไปนี้เพิ่มโอกาสในการเกิดโรคได้
โรคมะเร็งไตในระยะแรกมักไม่มีอาการใดๆ พบว่าประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยโรคไตพบระหว่างการตรวจสุขภาพประจำปี หรือการตรวจร่างกายเพื่อภาวะทางการแพทย์อื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง จนก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่ขึ้น อาการของโรคจึงปรากฏให้เห็น ได้แก่
ปัสสาวะมีเลือดปน โดยสีของปัสสาวะจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู แดง หรือ น้ำตาล
ปวดบริเวณบั้นเอว
คลำพบก้อนบริเวณชายโครง
อ่นเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
มีไข้เรื้อรัง
แพทย์วินิจฉัยโรคมะเร็งไตได้โดยการสอบถามอาการ ประวัติครอบครัวและประวัติการเจ็บป่วย ร่วมกับตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ ได้แก่
ในการรักษาโรคมะเร็งไตนั้น แพทย์จะกำหนดวิธีการรักษาโดยคำนึงถึงชีวิตและระยะของมะเร็ง รวมถึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย เช่น อายุ สุขภาพร่างกายโดยรวม และความต้องการของผู้ป่วย โดยแนวทางหลักในการรักษามะเร็งไต ได้แก่ การผ่าตัด การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด รังสีรักษา การรักาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง และการให้ยาเคมีบำบัด
การผ่าตัด เป็นการรักษาหลักที่ช่วยให้ผู้ป่วยหายขาดได้ในกรณีที่มะเร็งยังไม่แพร่กระจายออกนอกไต โดยสามารถทำได้ 2 ลักษณะ ขึ้นอยู่อยู่กับระยะ ขนาด และตำแหน่งของก้อนมะเร็ง
1. การผ่าตัดเอาเนื้อไตออกทั้งหมด (Radical nephrectomy) เป็นการตัดไตข้างใดข้างหนึ่งออกทั้งหมด และอาจรวมถึงบริเวณโดยรอบซึ่งได้แก่ ต่อมหมวก ต่อมน้ำเหลือง และเนื้อเยื่อไขมัน
2. การผ่าตัดเอาเนื้อไตออกบางส่วน (Partial nephrectomy) เป็นการผ่าตัดเอาเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้องอกร้ายออก ใช้ในกรณีที่ก้อนมะเร็งยังมีขนาดเล็ก และแพทย์พิจารณาแล้วว่าเนื้อไตส่วนที่เหลือยังสามารถทำหน้าที่
1. การผ่าตัดเปิดหน้าท้องแบบดั้งเดิม วิธีนี้ผู้ป่วยอาจเสียเลือดและเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากแผลผ่าตัดที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน 8-12 สัปดาห์
2. การผ่าตัดแบบแผลเล็กด้วยวิธีการส่องกล้อง (Laparoscopy) หรือการใช้แขนกลช่วยผ่าตัดด้วยระบบดาวินชี (Robotic-Assisted Da Vinci Surgical System) ซึ่งเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และปลอดภัยให้กับการผ่าตัดที่มีความซับซ้อนในบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก โดยเฉพาะไตซึ่งเป็นอวัยวะที่อยู่ลึกและมีลำไส้ซ้อนอยู่ ทั้งยังอยู่ใกล้หลอดเลือดแดงขนาดใหญ่ ทำให้ศัลยแพทย์ต้องใช้ความแม่นยำอย่างมาก นอกจากนี้แขนกลหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดยังให้ผลดีกับผู้ป่วย คือ
การรักษาด้วยภูมิคุ้มบำบัด (Immunotherapy หรือ Biological Therapy) เป็นการรักษาโดยอาศัยหลักการทำงานของภูมิคุ้มกัน คือ เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจะถูกกระตุ้นให้ทำการกำจัดสิ่งแปลกปลอมนั้นออกจากร่างกาย โดยแพทย์จะใช้ยาที่ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันเพื่อให้สามารถกำจัด หรือควบคุมเซลล์มะเร็งในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีนี้จะใช้ในกรณีที่มะเร็งแพร่กระจายในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีจะใช้ในกรณีที่มะเร็งแพร่กระจายออกนอกไตหรือมะเร็งไตที่กลับมาเป็นซ้ำ
รังสีรักษา เป็นการใช้รังสีพลังงานสูงทำลายสารพันธุกรรม (DNA) ภายในเซลล์มะเร็งเพื่อหยุดยั้งการเจริญเติบโตและทำให้เซลล์มะเร็งตายไปในที่สุด รังสีรักษามักใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีปัญหาสุขภาพจนไม่สามารถผ่าตัดได้ หรือใช้ร่วมกับวิธีการรักษาอื่นๆ เพื่อบรรเทาอาการที่เกิดจากโรค เช่น อาการปวด มีเลือดออก หรืออาการอื่นๆ ที่เกิดจากการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะการแพร่กระจายไปยังกระดูกและสมอง
การรักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง(Target Therapy) เป็นการรักษาโดยให้ยาหรือสารไปยับยั้งกระบวนการส่งสัญญาณระดับเซลล์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเจริญเติบโตและแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง โดยปัจจุบันยาที่ใช้มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งทำให้มะเร็งแพร่กระจาย และกลุ่มที่ออกฤทธิ์ยับยั้งกลไกภายในเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของมะเร็ง
การให้ยาเคมีบำบัด เป็นการให้ยาเพื่อทำลายหรือหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตามผู้ป่วยมะเร้งไตมักไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัด วิธีนี้จึงไม่ใช่วิธีหลักในการรักษา แต่แพทย์อาจเลือกใช้หากใช้วิธีรังสีรักษาและการรักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็งแล้วไม่ได้ผล
โรคมะเร็งไตสามารถป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค อาทิ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมะเร็งไตยังเกิดจากปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่น ความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ดังนั้นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพราะยิ่งตรวจพบเร็วก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการรักษาโรคให้หายขาดมากขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูล นพ.ธัชชัย พิพิธพันธ์พิพิท ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ ศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลนนทเวช
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ปัจจัยเสี่ยงและวิธีการรักษา มะเร็งไต
Tag ที่เกี่ยวข้อง
มะเร็งไต เนื้องอก ป้องกันมะเร็งโดยตั้งแต่ปี 1998 บริษัท เฟยดา จำกัด สาขาประจำประเทศไทย เริ่มดำเนินงานนำเข้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายสมุนไพรเทียนเซียนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
อ่านต่อ >>
ยาน้ำเทียนเซียน
เอ็กซ์แทร็คท์ พลัส
นิทรา เฮอร์เบิล ฟุทโซค
02-264-2217,02-264-2218,
02-264-2219
เวลาทำการ 08.30 น.-17.00 น.
[email protected]
213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 สุขุมวิท 21 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110
Copyright © 2020 บริษัท เฟยดา จำกัด. All rights reserved.