30-Apr-2025 อ่าน : 4 คน
.jpg)
เรื่องราวการต่อสู้กับมะเร็งของคุณ "แจ้" ภัคธินันท์ พงศ์ธนันท์ภาส
คุณ ภัคธินันท์ พงศ์ธนันท์ภาส ทำงานด้านสื่อสารมวลชนมานานกว่า 33 ปี พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งครั้งแรกเมื่อ 13 ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2555) ที่รังไข่ และผ่านการรักษาจนหาย แต่ในต้นปี 2564 ระหว่างตรวจสุขภาพประจำปี ก็พบรอยโรคที่เยื่อหุ้มปอดด้านขวา ผลตรวจชี้ชัดว่าเป็นมะเร็งอีกครั้ง
"ตอนฟังผล แพทย์บอกว่าเป็นเนื้อร้าย...มันช็อกมากค่ะ" คุณ ภัคธินันท์ พงศ์ธนันท์ภาส เล่าถึงความรู้สึกขณะนั้น "เรารู้แค่ว่ามะเร็งคือโรคที่คนเป็นแล้วตาย แต่ยังไม่มีความรู้เรื่องการรักษาเลย"
เริ่มเข้ารับการรักษาอีกครั้ง
คุณ ภัคธินันท์ พงศ์ธนันท์ภาส เข้ารับการผ่าตัดและต้องทำเคมีบำบัดตามคำแนะนำของแพทย์ แม้จะเคยได้ยินว่าคีโมมีผลข้างเคียงรุนแรง แต่ครั้งแรกที่รับยา ยังรู้สึกปกติ จนกระทั่ง 2-3 วันหลังเริ่มรักษา อาการอ่อนเพลียจึงถาโถมเข้ามา
อาการเป็นอย่างไรบ้าง
ทรุดเลย คือทรุดตรงนี้มันไม่มีแรงเลย ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือ และพักฟื้นที่บ้าน"
กำลังใจสำคัญในการต่อสู้กับมะเร็ง
คุณภัคธินันท์ พงศ์ธนันท์ภาส บอกว่าสิ่งที่ช่วยให้เธอผ่านช่วงเวลานั้นมาได้คือ
การปฏิบัติธรรม ที่ทำมาตลอด และเลือกทำแต่ความดีสั่งสมบุญบารมี
มีครอบครัวและเพื่อน โดยเฉพาะพนักงานบริษัทเฟยดาที่คอยให้กำลังใจ
ให้กำลังใจตัวเองคิดเชิงบวก "เราตั้งเป้าว่าอยากมีชีวิตถึง 70-80 ปี ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ"
ญาติมีส่วนช่วยสนับสนุนอย่างไร ?
คุณภัคธินันท์ พงศ์ธนันท์ภาส ย้ำว่า การปรึกษาแพทย์และคนใกล้ชิดที่เข้าใจสำคัญมาก เพราะบางครั้งคำพูดของคนที่ไม่รู้จักอาจทำร้ายจิตใจผู้ป่วย
ตอนนั้น คุณภัคธินันท์ พงศ์ธนันท์ภาส ไม่ได้เล่าให้ญาติ หรือคนทั่วไปฟังทั้งหมด รวมถึงไม่ได้โพสต์ลงโซเชียล เพราะเกรงว่าคนอื่นไม่เข้าใจเราจริงๆ ไม่เข้าใจผู้ป่วย กลัวมีบางคำพูดบางความคิดเห็นทำให้ตัวเองเสียกำลังใจ
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
สภาพอากาศยิ่งทุกวันนี้ ทั้งโลกเลยเป็นฝุ่นจิ๋วที่อันตรายมาก พยายามดูแลตัวเอง
เลือกรับประทานอาหารปลอดภัย เนื่องจากสภาพแวดล้อมปัจจุบันเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
หลีกเลี่ยงข่าวลบ และหาความสุขเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน
หมั่นไปตรวจสุขภาพบ่อยๆไม่ต้องกลัวหมอมีทางรักษาหลายอย่าง ทั้งแผนปัจจุบันแล้วก็มีทางเลือกแต่ต้องเชื่อมั่น ต้องดูจากคนที่เค้าหาย
ให้กำลังใจผู้ป่วยคนอื่น?
ในเมื่อเรามีลมหายใจ เราก็ขอให้เรามีความสุขในการใช้ชีวิตยังได้หัวเราะ ยังได้สนุกสนานกับชีวิตประจำวัน มองโลกในแง่ดี แล้วไม่ต้องไปท้อ เพราะว่าเราเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว เกิดแก่เจ็บตาย โรคภัยมันเป็นเรื่องธรรมดา
จุดเริ่มต้น รู้จักยาน้ำเทียนเซียนได้อย่างไร?
คุณภัคธินันท์ พงศ์ธนันท์ภาส รู้จักผลิตภัณฑ์เทียนเซียนจากเจ้านาย ได้ส่งมาให้ขณะรักษามะเร็งรังไข่ และสังเกตว่าตัวเองมีผลข้างเคียงจากคีโมน้อยกว่าคนอื่นๆ
หลังใช้เทียนเซียนสุขภาพเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร?
การฟื้นตัวเร็ว จากที่เคยอ่อนเพลียหลายวันหลังคีโม เหลือเพียง 2-3 วันก็กลับมาทำงานได้ปกติ
เทียนเซียนช่วยลดผลข้างเคียงหรือช่วยคุณอย่างไร?
ยาน้ำเทียนเซียนช่วยลดผลข้างเคียงจากการทำคีโมได้อย่างชัดเจน ไม่มีอาการเล็บดำ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบในผู้ป่วยเคมีบำบัดส่วนใหญ่ อาเจียนเพียงเล็กน้อย และสามารถกลับมากินข้าวได้ปกติภายใน 3-4 วัน
ก่อนใช้ยาน้ำเทียนเซียนกังวลอะไรบ้าง
เมื่อถามถึงความกังวลก่อนใช้ คุณภัคธินันท์ พงศ์ธนันท์ภาส ตอบทันทีว่า "ไม่กังวลเลยเพราะเชื่อมั่น " ได้รับการแนะนำจากเจ้านายผู้ไว้ใจได้ ท่านไปได้ยินโฆษณามาท่านก็เลยสั่งให้และมีทีมงานเฟยดาคอยติดตาม ดูแลอาการตลอด
เทียนเซียนแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นในมุมมองของคุณอย่างไร?
เปรียบเทียบจากประสบการณ์ส่วนตัว ผลิตภัณฑ์อื่นที่เห็นจากโซเซียล แทบไม่เคยทานเลย แต่มีใช้ไม่ครบกระปุกก็เลิกทานไป เพราะ มีความเชื่อมั่นในการใช้ยาน้ำเทียนเซียน เจ้านายสั่งมาให้เราทานเราก็คิดว่าเราจะทานต่อไป
ยาน้ำเทียนเซียนส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นชัดเจน
ในเรื่อง "การนอนหลับ" ซึ่งเป็นปัญหาหลังคีโมมา มีอาการหลับยาก แต่ยาน้ำเทียนเซียนทานแล้วทำให้เราหลับง่ายขึ้น ช่วยให้ร่างกายสดชื่นแม้ต้องตื่นตี 5 เพื่อเดินทางไปทำงานเป็นระยะทางที่ไกลพอสมควร ก็ยังสดชื่นทำงานได้ทั้งวันไม่ได้รู้สึกเพลียหรือเหมือนคนป่วยเลย หลายคนทักว่าก็ดูดีขึ้น ดูแข็งแรง
ใช้ยาน้ำเทียนเซียนยาวนานกว่า 13 ปี
คุณภัคธินันท์ พงศ์ธนันท์ภาส ใช้เทียนเซียนครั้งแรกเมื่อรักษามะเร็งรังไข่ (พ.ศ. 2555) และกลับมาทานอีกครั้งในปี 2565 จนถึงปัจจุบัน (2568) โดยเล่าว่า
ครั้งแรกทานต่อเนื่อง 6 เดือนควบคู่กับคีโม
ครั้งนี้(ครั้งที่ 2)ทานมาเกือบ 3 ปีแล้วจนถึงปัจจุบัน
อยากบอกอะไรกับคนที่ยังลังเลจะใช้ยาน้ำเทียนเซียน
ให้กำลังใจตัวเองทั้งทางจิตใจและทางกายภาพ เพราะชีวิตเรามีค่ามากมายมันประเมินราคาไม่ได้ ใครมาให้ 10 ล้าน 20 ล้านให้ตายก็ไม่เอา แต่เราจะต้องกินน้ำยาเทียนเซียน เพื่อเราจะได้ไม่กลับมาเป็นอีก สุขภาพแข็งแรงแล้วก็คุณภาพชีวิตที่ดี ไปทำบุญกับคุณแม่ ได้ดูแลลูกหลาน ก็ได้ไปเห็นวิวัฒนาการอะไรใหม่ๆเพราะโลกนี้มันก็จะน่าอยู่
คุณจะแนะนำเทียนเซียนให้ผู้ป่วยคนอื่นไหม ? เพราะอะไร ?
อยากบอกว่า...พอเป็นแล้วนะคะ กว่าคุณจะรอหมอผ่าตัดกว่าจะนัด น้ำยาเทียนเซียนส่งมาโดยตรงถึงบ้านเลย ดูแลช่วงระหว่างรอการรักษาเป็นกำลังใจที่ดีมากเลย เพราะฉะนั้นทานเถอะ มันดีมากเลย มันช่วยกำลังใจถ้าเรามัวรอหมอ เชื้ออาจจะลามไปแล้วอาจจะแบบรักษาไม่ได้แล้ว
ข้อคิดจากประสบการณ์
"ชีวิตเราประเมินค่ามิได้...เราอาจเสียเงินเพื่อสิ่งจำเป็นน้อยลง แต่สุขภาพคือสิ่งสำคัญที่สุด" คุณภัคธินันท์ พงศ์ธนันท์ภาส กล่าวพร้อมย้ำว่าเธอพร้อมแนะนำเทียนเซียนให้ผู้ป่วยอื่น เพราะเห็นผลด้วยตนเอง ทั้งในแง่ร่างกายและกำลังใจ
"ระหว่างรอคิวรักษา ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยซื้อเวลาและลดความกังวลให้เราได้"
เรื่องราวของคุณภัคธินันท์ พงศ์ธนันท์ภาส คือตัวอย่างของการต่อสู้ด้วยความเข้มแข็ง และการมองหาหนทางเพื่อชีวิตที่มีความหวังแม้ในวิกฤติ
