เอ็กซ์แทร็คท์ พลัส สมุนไพรอาหารเสริมเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง

มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังคืออะไร ถ้าเป็นแล้วมีโอกาสหายไหม

24-Oct-2025 อ่าน : 6 คน

มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังเป็นยังไง: มาดูอาการ การรักษา และแนวโน้มในการฟื้นตัว

มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง เป็นหนึ่งในโรคที่หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ แต่ยังไม่เข้าใจว่าจริง ๆ แล้วคือโรคอะไรกันแน่ อันตรายมากน้อยแค่ไหน และสามารถรักษาอย่างไรได้บ้าง ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้จึงถือว่าสำคัญมาก เพราะหากตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่ระยะแรก ผู้ป่วยก็จะมีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติอีกครั้ง

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง อาการเป็นอย่างไร และมีโอกาสหายไหม เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งใช้ชีวิตได้ดียิ่งขึ้น

มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง คืออะไร

มือสองข้างประคองริบบิ้นสีส้ม สัญลักษณ์รณรงค์โรคมะเร็ง

มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง (Chronic Leukemia) คือภาวะที่ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดขาวผิดปกติ ซึ่งโดยปกติแล้ว เม็ดเลือดขาวจะทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรค และช่วยปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อ แต่เมื่อเกิดโรคนี้ เม็ดเลือดขาวจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ปริมาณที่เพิ่มขึ้นจะไปแย่งพื้นที่ และแย่งสารอาหารจากเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือด ทำให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ และก่อให้เกิดอาการผิดปกติหลายอย่าง

สิ่งที่มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังแตกต่างจากมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลัน คือ โรคแบบเรื้อรังจะค่อย ๆ พัฒนาช้าๆ ทำให้ผู้ป่วยบางคนเริ่มแสดงอาการหลังจากเกิดความผิดปกติภายในร่างกายไปแล้วหลายปี

โดยส่วนใหญ่มักพบผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังที่มีอายุในช่วง 50-60 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ร่างกายไม่แข็งแรงสมบูรณ์ และถ้ายิ่งเกิดความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ง่าย

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง

แม้ว่าวงการแพทย์จะยังไม่สามารถบอกสาเหตุที่แท้จริงของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังได้ แต่มีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างที่ทำให้บางคนมีโอกาสเกิดโรคนี้มากกว่าคนทั่วไป ได้แก่

ผู้สูงอายุสวมชุดผู้ป่วยนั่งอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล มองออกไปนอกหน้าต่าง

1. พันธุกรรมและประวัติครอบครัว

หากคนในครอบครัวเคยป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โอกาสที่สมาชิกคนอื่น ๆ จะเป็นโรคเดียวกันก็ย่อมสูงขึ้น แม้ว่าโรคนี้จะไม่ใช่โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมโดยตรง แต่การมียีนบางชนิดก็อาจเป็นพื้นฐานที่ก่อให้เกิดโรคนี้ได้ง่ายขึ้น

2. สิ่งแวดล้อมและการทำงาน

การสัมผัสกับสารเคมี เช่น เบนซีน ซึ่งพบได้มากในอุตสาหกรรมบางประเภท รวมถึงการได้รับรังสีในปริมาณสูง เช่น ผู้ที่เคยผ่านการรักษาด้วยรังสีบำบัด อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงและก่อให้เกิดความผิดปกติในเซลล์เม็ดเลือด จนลุกลามเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังได้

3. อายุ

จากสถิติของผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 60 ปี อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อายุน้อยกว่านี้ก็มีโอกาสป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังได้เช่นกัน ดังนั้น การดูแลตัวเองในทุกช่วงอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญ

4. พฤติกรรมการใช้ชีวิต

แม้จะยังไม่มีงานวิจัยยืนยันชัดเจนว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบใดที่เป็นต้นเหตุที่แท้จริงของโรคนี้ แต่แพทย์และนักวิชาการก็ยังคงเชื่อว่า การสูบบุหรี่ การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการไม่ออกกำลังกาย ล้วนมีส่วนเพิ่มความเสี่ยงทางอ้อมในการเกิดโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังได้ทั้งสิ้น

ประเภทของมะเร็งเม็ดเลือดขาว

หากพูดถึงประเภทของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

มะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลัน (Acute Leukemia)

โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลัน คือการที่เซลล์เม็ดเลือดผิดปกติเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ปี และต้องได้รับการรักษาโดยเร่งด่วน ทั้งการทำเคมีบำบัดหรือการปลูกถ่ายไขกระดูก โดยแบ่งย่อยได้ 2 ประเภท คือ

มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดลิมฟอยด์ (ALL) เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมฟอยด์ในระยะตัวอ่อน ซึ่งจะไปรบกวนการสร้างเม็ดเลือดปกติชนิดอื่น ๆ ส่งผลให้จำนวนเม็ดเลือดปกติในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดมัยอีลอยด์ (AML) เกิดจากเซลล์เม็ดเลือดขาวในระยะตัวอ่อนชนิดมัยอีลอยด์ เซลล์มะเร็งเหล่านี้จะเข้าไปขัดขวางการทำงานของไขกระดูก ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว

มือสองคู่ประคองริบบิ้นสีส้ม สัญลักษณ์ให้กำลังใจผู้ป่วยมะเร็งและการรณรงค์ต้านโรคมะเร็ง

มะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเรื้อรัง (Chronic Leukemia)

โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเรื้อรังจะค่อย ๆ พัฒนาไปอย่างช้า ๆ ผู้ป่วยจึงอาจไม่มีอาการในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป เม็ดเลือดที่ผิดปกติจะสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เกิดภาวะซีด ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเลือดออกง่าย โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังแบ่งย่อยออกเป็น 2 ชนิด ตามชนิดของเซลล์เม็ดเลือดขาว ได้แก่

มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดมัยอีลอยด์ (CML) เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดมัยอีลอยด์ ทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดขาวชนิดนี้เพิ่มขึ้นอย่างมากในไขกระดูกและเลือด
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดลิมฟอยด์ (CLL) เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมฟอยด์ที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ทำให้เซลล์มะเร็งเหล่านี้มีจำนวนมาก และอาจไปสะสมที่ต่อมน้ำเหลืองหรือม้ามได้

มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง อาการที่ควรรู้

ไม่ว่าจะป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบใด หากตรวจพบความผิดปกติแล้ว ก็จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาทันที และติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เพราะหากปล่อยไว้จะยิ่งทวีความรุนแรง และเพิ่มโอกาสการเสียชีวิตได้

และแม้ว่าอาการของมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังอาจไม่ชัดเจนในช่วงแรก จนทำให้หลายคนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังป่วย แต่ก็มีอาการที่มักพบได้บ่อย ได้แก่

อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย แม้ไม่ได้ทำงานหนัก ถือเป็นสัญญาณแรกเริ่มที่ต้องแยกให้ออกว่า อาการเหนื่อยที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไรกันแน่
มีไข้ต่ำ ๆ การที่ร่างกายต้องต่อสู้ความผิดปกติภายใน อาจทำให้เกิดอาการบางอย่างร่วมด้วย เช่น มีไข้ต่ำ ๆ หรือเหงื่อออกตอนกลางคืน ซึ่งมักเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าร่างกายกำลังอยู่ในภาวะอักเสบ
น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ร่างกายต้องใช้พลังงานในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง จึงอาจทำให้น้ำหนักตัวลดลง แม้ว่าพฤติกรรมการกินจะปกติ

เมื่อโรคดำเนินไปจนถึงจุดหนึ่ง เซลล์เม็ดเลือดขาวที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นจะส่งผลให้ร่างกายแสดงอาการที่ชัดเจนและรุนแรงขึ้น ได้แก่

ซีดผิดปกติ การที่เซลล์มะเร็งในไขกระดูกไปรบกวนการสร้างเม็ดเลือดแดง ส่งผลให้ร่างกายขาดออกซิเจน ผู้ป่วยจึงมีอาการหน้าซีด ไม่มีแรง และวิงเวียนศีรษะบ่อย ๆ
ติดเชื้อบ่อย เม็ดเลือดขาวที่ผิดปกติในร่างกายไม่สามารถทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคได้ ดังนั้น ผู้ป่วยจึงอ่อนแอและติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ
เลือดออกง่ายหรือมีจ้ำเลือดตามร่างกาย เมื่อร่างกายสร้างเกล็ดเลือดน้อยลง ทำให้เลือดแข็งตัวได้ไม่ดี ผู้ป่วยโรคนี้จึงอาจพบจ้ำเลือดตามตัว เลือดกำเดาไหลง่าย หรือมีเลือดออกตามไรฟัน
ม้ามหรือตับโต เซลล์มะเร็งสามารถไปสะสมที่ม้ามและตับ ทำให้เกิดอาการแน่นท้อง อึดอัด หรือรู้สึกไม่สบายท้องได้

มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง มีโอกาสหายไหม

ผู้หญิงวัยทำงานนั่งจับหน้าแสดงอาการปวดหรืออ่อนเพลียบนเตียงในห้องพัก

มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง มีโอกาสหายขาดได้ โดยมีอัตราการรอดชีวิต 5 ปี ของโรคอยู่สูง 70-90% (อ้างอิงข้อมูลจาก SEER และ Canadian Cancer Society) แต่ก็ย่อมขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น อายุ ระยะของโรค และวิธีการรักษา

สถานะของผู้ป่วย

ผู้ป่วยที่อายุน้อยมีโอกาสหายขาดจากโรคได้มากกว่า และหากเข้ารับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โอกาสในการรักษาให้หายขาดก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ก็ต้องดูด้วยว่าผู้ป่วยแต่ละคนตอบสนองต่อการรักษามากน้อยแค่ไหน

การรักษาแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy)

ยาในกลุ่มนี้จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของยีนที่ผิดปกติที่เป็นสาเหตุของโรค ทำให้สามารถควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงกับคนปกติ โดยในปัจจุบัน ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังกว่า 80–90% สามารถควบคุมโรคได้ยาวนาน (อ้างอิงข้อมูลจาก NCCN Guidlines) และถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นการ “ควบคุมโรค” มากกว่าการ “หายขาด” ผู้ป่วยเหล่านี้ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างใกล้เคียงกับคนปกติ

การปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone Marrow Transplant)

เป็นวิธีรักษาเดียวที่มีโอกาสทำให้ผู้ป่วยหายขาดจากมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังได้ แต่ก็มีความเสี่ยงสูง เช่น ภาวะแทรกซ้อนหรือการติดเชื้อ จึงเหมาะกับผู้ป่วยที่อายุน้อย แข็งแรง และไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาเท่านั้น

แม้ว่าผู้ป่วยบางรายอาจจะไม่สามารถหายขาดจากโรคได้ แต่การรักษาที่เหมาะสมจะช่วยควบคุมอาการของโรค ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ การเลือกแนวทางการรักษาจึงต้องปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละราย และพิจารณาความเสี่ยงและประโยชน์ให้รอบด้าน

มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังรักษาและควบคุมได้

ผู้หญิงวัยกลางคนสวมผ้าคลุมศีรษะยิ้มอย่างอารมณ์ดี มองออกไปนอกหน้าต่าง ขณะอยู่ในช่วงพักฟื้นจากโรคมะเร็ง

แม้โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังจะเป็นโรคร้ายแรง แต่หากตรวจพบเร็วและได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยก็มีโอกาสควบคุมโรคหรือรักษาหายได้ สิ่งสำคัญคือการไม่ละเลยสัญญาณเตือนเล็ก ๆ น้อย ๆ และเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีและรวดเร็วที่สุด

นอกจากการรักษาตามแนวทางการแพทย์แล้ว ยังสามารถดูแลสุขภาพได้ด้วย ยาน้ำเทียนเซียน ยาบำรุงร่างกายสำหรับผู้ป่วยระยะพักฟื้น ประกอบไปด้วยสมุนไพร 14 ชนิดจากเทือกเขาฉางไป๋ซาน ถูกวิจัยและพัฒนาอย่างพิถีพิถันจากสถาบันวิจัยยาฉางไป๋ซาน