15-Sep-2025 อ่าน : 3 คน
มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิง และพบบ่อยเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งทั้งหมด โดยมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับมะเร็งเต้านมหลายข้อที่อาจส่งผลเสียต่อผู้เชื่อ เช่น การตรวจแมมโมแกรมบ่อยทำให้เป็นมะเร็ง หรือ ผู้ชายไม่มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม
หลายครั้งความเชื่อผิด ๆ เหล่านี้ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยละเลยการตรวจสุขภาพ จนส่งผลให้การรักษาล่าช้าและมีความเสี่ยงมากขึ้น บทความนี้จะช่วยปรับเปลี่ยนความเชื่อ ให้ความรู้ และแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง เพื่อให้ความเสี่ยงจากโรคมะเร็งเต้านมลดน้อยลงกว่าเดิม
ต้องยอมรับว่า การเผยแพร่ข่าวสารในปัจจุบันเป็นไปอย่างรวดเร็ว และบางเรื่องไม่ได้ถูกตรวจสอบความถูกต้องให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะในช่องทางโซเชียล ทำให้หลายคนได้รับข้อมูลที่เท็จและเริ่มเกิดเป็นความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม
ความเข้าใจผิดบางอย่าง เช่น ผู้ชายไม่มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม หรือ ผู้หญิงที่มีหน้าอกเล็กมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมต่ำ อาจทำให้หลายคนตัดสินใจช้า หรือละเลยที่จะตรวจคัดกรอง เพราะมองว่าตนเองไม่มีทางป่วยเป็นโรคนี้ได้
โดยความเข้าใจผิดเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมเหล่านี้อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับกลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งสูญเสียโอกาสในการรักษาตั้งแต่ระยะแรก
การรับข้อมูลผิด ๆ ไม่เพียงแต่สร้างความกลัวเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้หญิงหลายคนหลีกเลี่ยงที่จะตรวจคัดกรอง ทำให้ตรวจพบโรคได้ช้าและมีโอกาสรักษาให้หายขาดที่น้อยลง โดยการตรวจพบมะเร็งในระยะแรก มีอัตราการรอดชีวิตสูงมากกว่า 90% ในขณะที่การตรวจพบในระยะลุกลาม อาจทำให้อัตราการรอดชีวิตเหลือไม่ถึง 30%
เมื่อพูดถึงความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม มีหลายประเด็นที่ถูกทำให้เข้าใจผิดมาอย่างยาวนาน และแชร์กัยในสังคมโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ ซึ่งทำให้หลายคนตัดสินใจผิดพลาดและได้รับการรักษาไม่ทันเวลา โดย 6 ความเชื่อผิด ๆ ที่พบได้บ่อย มีดังนี้
ขนาดของหน้าอกไม่ใช่ปัจจัยโดยตรงของการเป็นมะเร็งเต้านม แต่เป็นเรื่องของความผิดปกติของเซลล์เฉพาะตัวมากกว่า ดังนั้น จึงไม่สามารถใช้ขนาดของหน้าอก มาเป็นปัจจัยวัดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งชนิดนี้ได้
ยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันอย่างแน่ชัดว่า การสวมบราที่รัดแน่นหรือการเสริมซิลิโคนที่หน้าอก ทำให้ความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การเลือกบราที่กระชับพอดีและไม่รัดแน่นจนเกินไป ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติ เพราะจะช่วยให้รู้สึกสบายตัวได้มากกว่า
ปริมาณรังสีที่ใช้ในการตรวจแมมโมแกรมถือว่าต่ำมาก เมื่อเทียบเท่ากับการได้รับรังสีจากสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าการตรวจแมมโมแกรมมีความปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดมะเร็งอย่างที่เคยเข้าใจผิดแต่อย่างใด
ไม่เพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่เป็นมะเร็งเต้านมได้ แต่ผู้ชายที่มีรูปร่างอ้วนก็มีสิทธิที่จะป่วยเป็นโรคนี้เช่นกัน ถึงแม้จะพบได้น้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย ดังนั้น หากผู้ชายท่านใดที่พบลักษณะก้อนต้องสงสัยบริเวณหน้าอก ก็ควรรีบไปพบแพทย์ด้วยเช่นกัน
ถึงแม้พันธุกรรมจะมีส่วนสำคัญในการเกิดโรคมะเร็งทุกชนิด แต่ก็ยังมีความเสี่ยที่เกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ทั้งอายุ ฮอร์โมน น้ำหนัก และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนั้น จึงไม่สามารวางใจได้ 100% ว่าคุณจะไม่มีทางเป็นมะเร็งเต้านม หากไม่มีคนในครอบครัวที่เคยป่วยเป็นโรคนี้
ในหลาย ๆ กรณี ก้อนเนื้อที่มีโอกาสกลายเป็นมะเร็งอาจไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด ดังนั้น หากตรวจพบลักษณะก้อนที่สงสัยอาจเป็นมะเร็งเต้านม ก็ควรรีบพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินในทันที
นอกจากการไม่เชื่อข่าวลวงหรือข้อมูลที่แชร์ต่อ ๆ กันโดยไม่มีหลักฐานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือแล้ว การป้องกันที่ดีที่สุดอีกหนึ่งทาง คือการรู้จักตรวจความผิดปกติด้วยตัวเอง และเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ซึ่งเป็นวิธีที่ผู้หญิงทุกคนควรทำ และมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
การรับมือกับข่าวลวงและความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ต้องอาศัยความเข้าใจ และความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความจริง เพราะยิ่งกลัวหรืออายที่จะไปพบแพทย์ อาจทำให้ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้ทันเวลา หรืออาจทำให้เชื้อมะเร็งแพร่ขยายไปยังอวัยวะข้างเคียง จนยากที่จะรักษาได้ทันเวลา
การดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากใครอยากปรับสมดุลพลังชี่ ขับร้อนถอนพิษ และบำรุงร่างกาย ด้วยการใช้สมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณที่โดดเด่นจากสมุนไพรธรรมชาติ 14 ชนิด สามารถเลือก ยาน้ำเทียนเซียน เป็นหนึ่งในตัวช่วยเสริมความมั่นใจได้เลย
ใครที่สนใจดูแลร่างกายด้วยศาสตร์แพทย์สมุนไพรทางเลือก สามารถสอบถามหรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่ LINE: @tianxian