21-Mar-2019 อ่าน : 1059 คน
สามารถดูแลตามอาการที่พบดังนี้
อาการกลืนลำบากมักเกิดจากมะเร็งของอวัยวะภายในลำคอ ถึงแม้ได้รับการรักษาแล้ว ผู้ป่วยอาจจะยังมีอาการนี้อยู่บางรายก้อนมะเร็งอาจยุบไม่หมดเนื่องจากเป็นก้อนเนื้อชนิดที่ดื้อต่อการรักษา ปัญหาสำคัญที่ตามมาหลังการกลืนลำบาก คือ น้ำหนักลด จนถึงการขาดสารอาหาร ดังนั้นญาติควรกระตุ้นให้ผู้ป่วยได้รับประทานอาหารบ่อยๆ โดยอาหารควรมีคุณค่าและให้พลังงานสูง เช่น ไข่ นมและเนื้อสัตว์ แต่ลักษณะของอาหารควรได้รับการปรุงแต่งให้อ่อนนุ่ม มีสภาพไม่เหนียว เคี้ยวกลืนไม่ยาก เพื่อลดการเคี้ยวให้น้อยที่สุด อาจเป็นอาหารเหลวที่ไม่หนืดเหนียว เพราะความหนืดเหนียวของอาหารอาจทำให้อาหารติดตามลิ้น เพดานปาก กระพุ้งแก้ม เหงือก ก่อให้เกิดความเจ็บปวดได้
อุณหภูมิของอาหารที่ร้อนหรือเย็นเกินไป มีผลต่อการกระตุ้นประสาทรับความรู้สึกเจ็บปวด และทำลายเซลล์งอกใหม่ จึงจำเป็นต้องควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในช่วง 20-45 องศาเซลเซียส รสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน ถือเป็นสารเคมีที่ให้รสชาติชนิดหนึ่ง ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นเซลล์ประสาทรับความรู้สึกเจ็บปวด จึงจำเป็นต้องควบคุมรสชาติไม่ให้จัดเกินไป
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับน้ำดื่มอย่างเพียงพอ วันละ 2-3 ลิตร ในกรณีที่ไม่มีข้อห้าม เนื่องจากการได้รับน้ำดื่มอย่างเพียงพอ จะเป็นการช่วยเพิ่มความชุมชื้นของช่องปากได้ดี และลดความตึงของเยื่อบุ ทำให้ผู้ป่วยสุขสบายช่องปากมากขึ้น
ในระหว่างให้อาหารควรระวังเรื่องการสำลักเข้าปอด เพราะอาหารจะเคลื่อนผ่านหลอดอาหารได้ช้า การกลืนเร็วหรือรับประทานคำโตเกินไปจะทำให้สำลักลงปอดได้ และเกิดอาการอักเสบของปอดตามมาถ้าอาการกลืนลำบากเป็นมากขึ้น ต้องแจ้งแพทย์ผู้รักษาทราบเพื่อได้พิจารณาหาทางแก้ไข เช่น ผ่าตัดใส่ท่อเพื่อให้อาหารเข้าทางกระเพาะหรือให้อาหารทางเส้นเลือดดำ เป็นต้น
ก่อนอื่นต้องหาสาเหตุของปัญหา อาจเกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ ความไม่รู้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับโรค การต่อสู้กับโรค ปัญหาการกินอาหาร การขับถ่าย หรือการเจ็บป่วย เช่น เหนื่อยมาก ปวดมาก
ต่อมาต้อง ให้กำลังใจ เพื่อลดความวิตกกังวล เป็นเพื่อนพูดคุยเรื่องต่างๆ พยายามให้ผู้ป่วยทำสมาธิ หรือ ฝึกจิต สวดมนต์ภาวนา เพื่อไม่ให้คิดหมกมุ่นเรื่องเดิม
ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่พักให้มีสิ่งแวดล้อมที่ให้กำลังใจและปลอดโปร่ง และจัดให้ผู้ป่วยได้ทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์
อาการซึมเศร้าจะเป็นอาการตอบสนองที่เกิดขึ้นตามปกติของโรคมะเร็งที่เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะผู้ป่วยทราบว่าระยะสุดท้ายใกล้มาถึง อาการนี้อาจเป็นสาเหตุนำไปสู่อาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ เช่น นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร และอารมณ์แปรปรวน
ญาติและเพื่อนสนิทจะสามารถช่วยผู้ป่วยในการเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่เลวร้ายได้อย่างเข้มแข็ง กล้าหาญและยอมรับสภาพโดยการให้กำลังใจและการช่วยแก้ปัญหาแก่ผู้ป่วย ทั้งทางสังคมและจิตใจจะช่วยให้พ้นภาวะนี้ได้อย่างมาก
เวลาที่ผ่านไปจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้าลดน้อยลงเรื่อยๆ ในรายที่มีอาการซึมเศร้ามาก หรือเป็นอยู่นานจำเป็นต้องแจ้งให้แพทย์ผู้รักษาทราบเพื่อพิจารณาให้การรักษาเป็นการเฉพาะ เช่น โดยการใช้ยาแก้อาการซึมเศร้าหรือจิตบำบัด
ผู้ป่วยที่ใช้ชีวิตพักผ่อนอยู่ในบ้าน หรือบนเตียงเป็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้สูงอายุ โดยปกติต้องการเวลาในการนอนหลับไม่มากนักอาจเพียง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้านอนไม่หลับจากการที่ได้นอนตอนกลางวันหรือนอนน้อยเป็นปกติวิสัยก็ไม่ต้องกังวลกับอาการ แต่ถ้าเป็นผลจากอาการปวด วิตกกังวล หอบเหนื่อย หรือไอมากควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
การออกกำลังกายเล็กน้อย ไม่ดูภาพยนตร์หรืออ่านหนังสือที่ตื่นเต้นก่อนนอนอาจช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น การดื่มเครื่องดื่ม เช่น นมอุ่นก่อนนอนและการจัดบรรยากาศในห้องนอนให้โปร่งสบาย ไม่มีเสียงรบกวนก็จะทำให้นอนหลับได้สบายขึ้น กรณีที่นอนไม่หลับทำให้รบกวนต่อสุขภาพและจิตใจมากควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาให้ยาหรือหาวิธีที่เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
• มะเร็งช่องปากในผู้สูงวัย ใครว่าไม่สำคัญ!
• การดูแลผู้ป่วยมะเร็งช่องปากและบริเวณคอ
• รู้จักมะเร็งช่องปาก ภัยร้ายในช่องปาก
Tag ที่เกี่ยวข้อง
มะเร็งช่องปาก การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ความรู้มะเร็งโดยตั้งแต่ปี 1998 บริษัท เฟยดา จำกัด สาขาประจำประเทศไทย เริ่มดำเนินงานนำเข้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายสมุนไพรเทียนเซียนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
อ่านต่อ >>
ยาน้ำเทียนเซียน
เอ็กซ์แทร็คท์ พลัส
นิทรา เฮอร์เบิล ฟุทโซค
02-264-2217,02-264-2218,
02-264-2219
เวลาทำการ 08.30 น.-17.00 น.
[email protected]
213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 สุขุมวิท 21 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110
Copyright © 2020 บริษัท เฟยดา จำกัด. All rights reserved.