กินอย่างไรเพื่อสู้กับโรคมะเร็ง - เคล็ดลับสู้มะเร้ง

09-May-2016     อ่าน : 3355 คน


 

กินอย่างไรเพื่อสู้กับโรคมะเร็ง - เคล็ดลับสู้มะเร้ง

เมื่อเป็นมะเร็ง การกระวนกระวายใจ เครียด วิตกกังวล ไม่ได้ช่วยให้ตัวโรคนั้นหายไป ซ้ำยังทำให้ตัวโรคมะเร็งยิ่งเติบโตและร่างกายก็ทรุดโทรมลงด้วย เราจึงมีเคล็ดไม่ลับสำหรับผู้ป่วยมะเร็งมาแนะนำ เพื่อไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยหลายคนคงเคยได้ยินถึงข้อมูลที่ว่า มะเร็งชอบความเป็นกรด ซึ่งอาหารที่มีสภาพความเป็นกรดซึ่งผู้ป่วยมะเร็งควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ 

1. น้ำตาลทรายขาว

น้ำตาลทรายขาวมีสภาวะความเป็นกรด ซึ่งมะเร็งจะยิ่งมีการเจริญเติบโตขึ้นจากสภาพความเป็นกรด โดยมะเร็งจะใช้การย่อยสลายกลูโคสในการเจริญเติบโตของมะเร็ง ซึ่งน้ำตาลจะดูดซึมเข้าไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งให้เจริญเติบโตได้ง่ายที่สุด แม้แต่น้ำตาลจากผลไม้หวานก็มีการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ลอส แองเจิลลิส ประเทศสหรัฐอเมริกาว่าสามารถทำให้เซลล์มะเร็งโตได้เช่นกัน ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการเติมความหวานด้วยน้ำตาลทรายขาว แต่หันมาใช้น้ำตาลจากธรรมชาติแทน เช่น น้ำผึ้ง และใช้ในปริมาณที่น้อย 

2. นม

ควรเปลี่ยนจากการดื่มนมวัว นมจากสัตว์มาเป็นนมที่มาจากพืช เช่น นมถั่วเหลือง หรือน้ำเต้าหู้แทน เพราะในถั่วเหลืองมีโปรตีนจากพืชที่มีคุณภาพดี ประกอบด้วยสารอาหารหลายชนิด อาทิ แคลเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี เซเลเนียม วิตามิน A,E,B1,B2

กรดอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย หลายชนิดและธาตุเหล็กที่มีมากกว่านมถึง 1.6 เท่า แต่การดื่มนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ก็ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะเช่นกัน มีผลวิจัยพบว่า การดื่มน้ำเต้าหู้ที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยในถั่วเหลืองจะมีสารที่เรียกว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งสารดังกล่าวจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อจะทำให้เป็นหมัน รวมทั้งสามารถทำให้เกิดความผิดปกติที่เต้านมได้อีกด้วย 

สำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ที่ตรวจความอ่อนไหวต่อฮอร์โมน (ER, PR) แล้วเป็นบวก ซึ่งหมายถึง ฮอร์โมนมีส่วนกระตุ้นมะเร็งเต้านม เนื่องจากถั่วเหลืองมีงานวิจัยพบว่ามีฤทธิ์คล้ายคลึงฮอร์โมนเพศหญิง ดังนั้นควรรับประทานถั่วเหลืองในปริมาณที่เหมาะสม โดยสามารถรับประทานนมถั่วเหลือง (น้ำเต้าหู้) ได้วันละ 1 แก้ว 

3. ผักและผลไม้

ผักและผลไม้มีสภาวะความเป็นด่าง ควรรับประทานผักและผลไม้ในแต่ละมื้อประมาณ 80% ของปริมาณอาหารทั้งหมด โดยเฉพาะผักใบเขียวและผักในตระกูลกระหล่ำทั้งหลาย เพราะสารสีเขียวในผักอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ  มีสารสำคัญหลายชนิด เช่น suiforaphane และสาร isothiocyanate ซึ่งช่วยขับพิษสารเคมี สาร indole สามารถจับสารก่อมะเร็ง ขับสารเคมีและรักษาสมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจน สาร giucosinolate ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันและยับยั้งการเจริญของเนื้องอก ทั้งนี้สามารถนำผักหรือผลไม้มาปั่นหรือคั้นเอาแต่น้ำเพื่อดื่มก็ได้ น้ำผักและน้ำผลไม้จะให้เอนไซม์ที่ง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ก่อนการรับประทานผักและผลไม้ควรล้างทำความสะอาดให้สะอาด หรือล้างด้วยด่างทับทิม เกลือ เพื่อชะล้างสารกำจัดศัตรูพืชที่อาจมีการตกค้างให้หมดไป

4. ดื่มชาเขียว

ชาเขียวมีสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่หลายชนิด แต่วันนี้เราจะพูดถึงสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ที่เรียกว่า แคททีชิน (catechins) แคททีชินที่พบมากที่สุดในชาเขียวคือ สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (epigallocatechin gallate) ซึ่งมีความสำคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ มีงานวิจัยชี้ว่า สารต่างๆในชาเขียวสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ 

5. น้ำสะอาด

การดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดผ่านการกรองส่งผลดีต่อร่างกายของผู้ป่วย เพราะน้ำมีส่วนช่วยในการลำเลียงสารอาหาร กำจัดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และช่วยให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ ผลการวิจัยของแพทย์ชาวญี่ปุ่น Yoshitaka Ohno ได้กล่าวว่า น้ำที่มีคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาโรคมะเร็ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเต้นชีพจรแห่งเมืองหนานจิงได้กล่าวเตือนอีกว่า หากเราปรารถนาที่จะให้น้ำเป็นตัวป้องกันและรักษามะเร็ง เราจำเป็นต้องให้ร่างกายได้รับน้ำที่มีคุณภาพเพียงพอ เพื่อขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย และยังสามารถรักษาสมดุลความเป็นด่างของร่างกายได้อีกด้วย

เลี่ยงเนื้อสัตว์ย่อยยาก

เนื้อสัตว์เป็นอาหารที่ย่อยยาก เนื้อสัตว์ต้องการเอนไซม์ในการย่อยเป็นจำนวนมาก เมื่อเอนไซม์ในการย่อยไม่เพียงพอ ทำให้เนื้อสัตว์ไม่สามารถย่อยได้หมด ส่งผลให้เกิดการตกค้างในลำไส้ และกลายเป็นสารพิษตกค้างในร่างกาย โดยควรบริโภคเนื้อสัตว์ที่ย่อยยากให้น้อยลง เพราะเซลล์มะเร็งมีโปรตีนที่ยากแก่การทำลายเป็นเกราะคอยป้องกัน การบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลงจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งได้ง่ายขึ้น

ควบคุมอารมณ์และมองโลกในแง่บวก

ความเครียด ความโกรธ ความกังวล ความเศร้า อารมณ์ทั้งหลายนี้จะส่งผลให้ร่างกายมีสภาพความเป็นกรด ความเป็นกรดคือสิ่งที่มะเร็งชอบ ดังนั้นเราควรทำใจใหสบาย ไม่เครียด ไม่กังวล หาแนวทางที่จะช่วยให้เราคลายความกังวล เช่น การสวดมนต์ การเล่นโยคะ การนั่งสมาธิ การอ่านหนังสือ หรือการดูหนังตลก เพื่อทำให้เรารู้สึกสนุก ร่างกายของเราก็จะเกิดความผ่อนคลายและอยู่ในสภาวะสมดุล

การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นการเพิ่มออกซิเจนเข้าไปในร่างกาย  เซลล์มะเร็งจะไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีออกซิเจน การหายใจเข้าลึกๆ-หายใจออกช้าๆ เป็นอีกวิธีที่จะช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในเซลล์ และมีส่วนเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งได้ดี มะเร็งไม่ได้น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือใจของเรามากกว่า เพราะหากเราไม่ยอมแพ้ต่อมะเร็ง ยิ้มสู้และยอมรับ พร้อมจะเรียนรู้และสู้กับมัน เชื่อว่ามะเร็งก็จะสามารถหายไปจากชีวิตของเราได้ 

 
 
 
หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook Tianxian herb
ปรึกษาผลิตภัณฑ์

กรุณากรอกแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง


มะเร็งกับอาหาร

มะเร็งกับการรักษา

มะเร็งกับการดูแล

โดยตั้งแต่ปี 1998 บริษัท เฟยดา จำกัด สาขาประจำประเทศไทย เริ่มดำเนินงานนำเข้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายสมุนไพรเทียนเซียนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

อ่านต่อ >>

ผลิตภัณฑ์ของเรา

ยาน้ำเทียนเซียน

เอ็กซ์แทร็คท์ พลัส

นิทรา เฮอร์เบิล ฟุทโซค

ติดต่อเรา

02-264-2217,02-264-2218,
02-264-2219
เวลาทำการ 08.30 น.-17.00 น.
[email protected]
213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 สุขุมวิท 21 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110

Copyright © 2020 บริษัท เฟยดา จำกัด. All rights reserved.