สิ่งที่เรียนรู้เมื่อเป็นมะเร็งเต้านม

30-Oct-2023     อ่าน : 783 คน


สิ่งที่ได้เรียนรู้เมื่อเป็นมะเร็งเต้านม

รู้ได้อย่างไรว่าเป็นมะเร็ง
     ดิฉัน น.ส. สุกัญญา มหัทธนานันท์ อายุ 54 ปี เมื่อต้นกันยา 2564 ดิฉันคลำเจอก้อนที่เต้านมซ้าย รู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะเป็นมะเร็ง จึงได้ไปพบคุณหมอในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง คุณหมอตรวจคลำเจอก้อนเช่นเดียวกัน คุณหมอรีบนัดดิฉันไปตรวจแมมโมแกรม อัลตร้าซาวน์ และตรวจชิ้นเนื้อ ดิฉันไปฟังผลตามที่คุณหมอนัด ผลออกมาเป็นเซลล์มะเร็งจริงๆ

     คุณหมอนัดคิวผ่าตัดด่วนให้เป็นกลางเดือนตุลาคม 2564 ดิฉันไปนอนที่โรงพยาบาลเพื่อรับการผ่าตัด คุณหมอนำชิ้นเนื้อที่ผ่าออกไปไปตรวจ และแจ้งผลตรวจชิ้นเนื้อว่า เป็นมะเร็งท่อน้ำนมระยะแพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลือง ชนิดไวต่อฮอร์โมน บอกว่าหลังจำหน่ายครั้งนี้ จะนัดมารับคีโม ต้องรับ 8 ครั้ง แต่ละครั้งเว้นห่างประมาณ 3 สัปดาห์ ดิฉันได้แต่ฟัง แต่ในใจบอกไม่รับคีโม วันที่จำหน่ายออกจากโรงพยาบาล พยาบาลนำใบนัดมาให้หลายใบ มีตรวจ CT ปอด ช่องท้อง กระดูก และมีใบนัดไปรับคีโม ดิฉันไปตรวจ CT ตามที่คุณหมอให้ตรวจ ผลปกติหมด ส่วนใบนัดไปรับคีโม ดิฉันไม่ไปตามนัด

     ดิฉันแสวงหาทางเลือกอื่นที่ไม่ต้องรับคีโม และไปพบสารอาหารของ ดร.ท่านนึง เขาบอกว่าสารอาหารนี้จะช่วยให้ภูมิคุ้มกัน (หรือเม็ดเลือดขาว) แข็งแรงขึ้น และ ภูมิคุ้มกันนั้นจะไปทำลายเซลล์มะเร็งเอง ดิฉันจึงสั่งมารับประทาน ขณะรับประทาน อาการดี ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย ผลเลือดค่ามะเร็งอยู่ในเกณฑ์ดี รับประทานอยู่นาน 1 ปีกว่า จนมาถึง ธันวาคม 2565 ดิฉันคลำเจอก้อนที่เต้านมขวา ก้อนนี้โตเร็ว ดิฉันคิดแล้วว่า คงเป็นชนิดเดียวกับเต้านมซ้ายที่ผ่าออกไป ดิฉันยังไม่ไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาล แต่แสวงหาทางเลือกอื่นในการรักษา ได้รับประทานสารสกัดของ ดร. อีกท่านนึง ตั้งแต่ มกราคม 2566 รับประทานไป 3 เดือน รู้สึกว่าก้อนยังโตขึ้น จึงได้แสวงหายาตัวใหม่ จนได้มาพบกับยาสมุนไพรเทียนเซียน

     ดิฉันได้คุยกับเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยที่เป็นโรคเดียวกัน ได้พูดคุยรับฟังข้อมูลจนมั่นใจในคุณภาพของยา จึงได้ตัดสินใจสั่งมารับประทานทั้งแบบน้ำ แบบเม็ด และแบบครีมทาที่เต้านม เริ่มรับประทานตั้งแต่ต้นเมษา 2566 จนถึงตอนที่เขียนบทความนี้ ดิฉันรับประทานมาแล้ว 4 เดือนกว่า ขณะรับประทานและให้ครีมทา รู้สึกร่างกายแข็งแรงขึ้น ไม่เหนื่อยไม่เพลียง่าย รับประทานอาหารได้ปกติ หลับสนิท ระบบขับถ่ายดีขึ้น ถ่ายสะดวก ไม่ต้องนั่งห้องน้ำนาน และรู้สึกว่าก้อนที่เต้านมขวายุบลง หากดิฉันรับประทานเทียนเซียน ครบ 1 ปี คาดว่าก้อนจะยุบลงมากกว่านี้แน่นอน

เทียนเซียน ทำให้ดิฉันมีความหวัง
เทียนเขียน ทำให้ดิฉันมีสุขภาพดีขึ้น

สิ่งที่ได้เรียนรู้เมื่อเป็นมะเร็ง
     เมื่อคุณหมอบอกว่า "เป็นมะเร็ง" ดิฉันฟังด้วยใจสงบ ไม่กลัว ทำใจยอมรับและตั้งสติวางแผนว่า ต้องทำอย่างไรต่อไป 

     มะเร็ง ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากพฤติกรรม เดิมดิฉันทำงานมาก ในสมองมีแต่งานเป็นส่วนใหญ่ดูแลสุขภาพกายและใจยังไม่ดีพอ ร่างกายขาดความสมดุล เชลต่างๆ จึงกลายพันธุ์ ดังนั้น การที่ดิฉันตรวจพบเชลมะเร็ง ก็ถือเป็นโอกาสที่ดิฉันจะได้ดูแลตนเองเสียใหม่ ปรับเปลี่ยนใหม่หมด ตั้งแต่ การกิน นอน ถ่าย ออกกำลังกาย ความคิด อารมณ์ การทำงาน รวมถึง ต้องตั้งเป้าหมายชีวิต และหาแนวทางการรักษาที่ได้ผลและปลอดภัย

การกิน
ก่อนเป็นมะเร็ง ทานเจมาหลายปี งดเนื้อสัตว์ทุกชนิด นมวัว อาหารทะเล มานานตั้งแต่ปี 2545
มื้อเช้า - น้ำโกโก้ กับ ขนมเปี๊ยะ หรือ ขนมปัง
มื้อกลางวัน - ข้าวผัด
มื้อเย็น - บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเจ โจ๊กซองเจ รับประทานติดต่อกันอยู่หลายเดือน ดื่มน้ำเปล่าสะอาด วันละ 1 ลิตร

หลังทราบว่าเป็นมะเร็งเปลี่ยนมาเป็น…
มื้อเช้า - ผักนึ่ง เช่น มัน กล้วย ข้าวโพด ฟักทอง
มื้อกลางวัน - ต้มจืด ต้มยำ ทานกับข้าวขาว ลดปริมาณข้าวลง
มื้อเย็น - อาหารต้ม เช่น ต้มยำเห็ดกับข้าว สลัดผัก เลี่ยงอาหารผัด ทอด (ยอมขับรถออกไปเพื่อหาอาหารดีๆ รับประทาน)
** หลีกเลี่ยง ไข่(ทานเจ) ผงชูรส ไขมัน เนย เกลือ ของหมักดอง น้ำตาลทรายขาว ของหวาน น้ำหวาน ผลไม้หวานจัด ของทอด ปิ้งย่าง แป้ง ทานข้าวขาวให้น้อยลง
** ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มากขึ้น วันละ 1-1.5 ลิตร ทานโปรตีนจากถั่วลันเตา วิตามินบีและซีเสริม

การนอน
เดิม นอนดึกประจำ ประมาณ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน บางคืนนอนไม่หลับ ถึงตี 3 ก็มี
หลังทราบว่าเป็นมะเร็งเปลี่ยนมาเป็น..
นอนให้ไวขึ้น ไม่เกิน 5 ทุ่ม ทำสมาธิก่อนนอน เพื่อให้หลับง่ายขึ้น นอนให้ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง 

การขับถ่าย
เดิม มีท้องผูกบางช่วง เคยเป็นริดสีดวง ต้องเหน็บยา
หลังทราบว่าเป็นมะเร็งเปลี่ยนมาเป็น..
ดื่มน้ำมากขึ้น นวดท้อง ฝึกการขับถ่ายใหม่ ไม่นั่งนานเกินไป ไม่เบ่งแรง ทำให้ถ่ายได้ปกติ ริดสีดวงหายไป

การออกกำลังกาย
เดิม ไม่ได้ออกกำลังกาย นั่งทำงานนาน ทำงาน 8.30 จนถึง 4-5 ทุ่ม
หลังทราบว่าเป็นมะเร็งเปลี่ยนมาเป็น..
เดินต่อเนื่องวันละ 30-60 นาที เลิกงานเร็วขึ้น ไม่ให้เกิน 3 ทุ่ม ถ้างานค้างมากค่อยมาทำวันเสาร์หรืออาทิตย์

ความคิด อารมณ์
เดิม คิดถึงอดีตบ่อย คิดถึงคนที่ทำร้ายจิตใจเรา ทำให้มีอารมณ์โกรธ เกลียด ผิดหวัง เสียใจ โทษตนเองที่ตัดสินใจผิด กระทำบางอย่างที่ผิดพลาด และเครียดเรื่องงาน
หลังทราบว่าเป็นมะเร็งเปลี่ยนมาเป็น..
     พยายามไม่คิดถึงอดีตที่ผิดพลาด ให้อภัยตนเอง พยายามมีสติอยู่กับปัจจุบัน ทำใจให้สงบ อยู่กับลมหายใจและงานที่กำลังทำ พยายามคิดแต่สิ่งที่ดี ทุกสิ่งที่เราได้พบเจอ ล้วนทำให้เราแข็งแกรงขึ้น ไม่ยึดติดในความไม่ดีของคนอื่น เราทำตัวเราให้ดีก็พอ กรรมใครกรรมมัน ไม่เก็บคำพูดที่ไม่ดีของคนอื่นมาคิด เมื่อไม่คิด อารมณ์โกรธเกลียดก็ไม่เกิด หรือถ้าเกิดก็รีบตัดทิ้ง และฝึกจิตไมให้กลัวมะเร็ง สะกดจิตก่อนนอนว่า "ภูมิต้านทานของฉันแข็งแรง กำจัดเซลล์มะเร็งได้ทุกวินาที ฉันจะหายจากมะเร็งอย่างแน่นอน"

การทำงาน
เดิม ดิฉันเคร่งเครียดกับงานมาก แต่ละวันต้องทำให้ได้มากที่สุด ต้องให้ถูกต้อง ครบถ้วน ให้ได้คุณภาพ ทำจนถึง 4 ทุ่มบ่อยครั้งบางครั้งถึงเที่ยงคืนก็มี แต่ไม่เคยคิดเรียกร้อง OT ทุ่มเทให้กับงานเกิน 100 และต้องพรินต์งานบ่อยหายใจเอาผงหมึกที่ฟุ้งออกมาโดยไม่ตั้งใจ (ใส่แมสค์แล้ว ยังได้กลิ่น)

หลังทราบว่าตนเองเป็นมะเร็ง..
     ตัดสินใจลาออกจากงานหลังจากผ่าตัด 1 ปี จากนั้นดิฉันก็มาพักอยู่ที่บ้าน ดูแลตนเองได้ดีขึ้น ได้รับประทานข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ธัญพืช เช่น ข้าวโพด ผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น สับปะรด แตงโม ส้ม ฝรั่ง มะม่วงดิบ แก้วมังกร น้ำมะนาว ผักสดปั่น ได้ทานอาหารเสริม เช่น โปรตีน กรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่ ไฟโตนิวเทรียนซ์ ไฟ-เบอร์ ได้ดื่มน้ำไฮโดรเจน (ซื้อเครื่องมาทำ 1.5-2 ลิตร/วัน แต่ละวันพยายามให้ได้รับสารอาหารให้ครบ 5 หมู่

การตั้งเป้าหมายชีวิต
ตั้งเป้าหมายว่า ฉันจะมีชีวิตที่ยืนยาวเพื่อจะทำสิ่งที่ดี เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และผู้อื่น

แนวทางการรักษาที่ได้ผลและปลอดภัย
     การรักษามะเร็งเต้านมมีหลายวิธี ถ้าถามคุณหมอ ในเคสแบบดิฉันต้องให้ยาคีโมไปแล้วแต่คีโมนั้นมีผลข้างเคียงมาก นอกจากทำลายเซลล์มะเร็งแล้ว ยังทำลายเซลล์ที่ดีไปด้วย หลายคนที่ดิฉันรู้จัก ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม พวกเขาได้รับคีโมครบคอร์ส ตามที่คุณหมอแผนปัจจุบันได้ร่ำเรียนมา แต่พอผ่านไปสักระยะ ไม่กี่ปีก็กลับมาเป็นอีก และ มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ดังนั้นดิฉันจึงเลือกการรักษาโดยการผ่าตัดเอาเต้านมออก แต่ไม่รับคีโม และ รับประทานเทียนเซียน อาหารเสริมอื่น ประกอบกับการดูแลตนเองตามที่กล่าวมาข้างต้น

     การรักษาที่วางแผนในอนาคตอันใกล้คือ ไปพบแพทย์ ผ่าตัดเต้านมข้างขวาออกทั้งเต้า เพื่อไม่ให้มีท่อน้ำนมเหลืออยู่ในร่างกาย ปรึกษาแพทย์เรื่องการรักษาด้วยวัคซีนและภูมิคุ้มกันบำบัด ร่วมกับการรับประทานยาเทียนเซียนควบคู่ไปเรื่อยๆ จนกว่าค่าเลือดบ่งชี้มะเร็งจะปกติติดต่อกัน 5 ปี

สรุป สาเหตุที่ดิฉันป่วย เกิดจาก พฤติกรรมไม่ดี (บรรพบุรุษ ไม่มีประวัติว่าใครเป็น) ทำให้ภูมิต้านทานต่ำ

  • การกิน - ขาดสารอาหาร รับประทานของหวาน ไขมันทรานส์บ่อยแต่รับประทานไฟเบอร์น้อย
  • การนอน - นอนดึก นอนน้อย
  • การถ่าย - ท้องผูก บางครั้ง ทำให้ของเสียตกค้างในร่างกาย
  • การออกกำลังกาย - ไม่ได้ออกกำลังกาย
  • ความคิด อารมณ์ - เครียดเรื่องส่วนตัวและงาน คิดมาก จนจิตไม่สงบ มีอารมณ์โกรธ เกลียด
  • การทำงาน - ดิฉันเป็น Perfectionism ทุ่มเททำงานมากเกินไป คิดพัฒนางานอยู่เสมอ จนไม่ได้นึกถึงสุขภาพ ใช้ความคิดมาก ทำงานจนดึกตลอด และนั่งนานหลายชั่วโมง
  • การรับสารพิษ - ได้รับจากการหายใจเอาผงหมึกพิมพ์เข้าไป ติดต่อเป็นเวลานานหลายปี

สรุป สิ่งที่ได้เรียนรู้เมื่อเป็นมะเร็ง
     1.  สุขภาพ สำคัญกว่าสิ่งอื่น จงดูแลสุขภาพกายใจให้แข็งแรง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข รักษาความคิด/อารมณ์ให้ดี ทำจิตให้สงบ ไม่คิดลบ ไม่มีอารมณ์ทางลบ ไม่เครียด เพื่อจะได้มีอายุยืนยาวทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้อีกมาก ผู้หญิงต้องหมั่นคลำเต้านม (ทุกวันยิ่งดี) หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ และไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง งดบุหรี่ สุรา แอลกอฮอล์ และ ยาเสพติด

     2.  งาน กินเวลาของชีวิตไปมาก จงเลือกทำงานที่เราทำแล้วมีความสุข ถ้าไม่มีความสุขให้รีบหาวิธีแก้ ถ้าแก้แล้วยังไม่ดีขึ้น ให้ทำใจยอมรับ แต่ถ้ายอมรับไม่ได้จริงๆ ให้เปลี่ยนงานหรือลาออก ไปทำอย่างอื่นที่มีความสุขมากกว่า ทำงานแล้วเครียดเป็นเวลานานจะทำให้เป็นมะเร็งได้ หลีกเลี่ยงการทำงานที่สัมผัสกันสารเคมี สารพิษ

     3.  อดีต คือบทเรียน อย่าเอามาทำร้ายปัจจุบันและอนาคต แต่จงเรียนรู้ความผิดพลาดและไม่ให้ผิดซ้ำ อย่าใช้อารมณ์แก้ปัญหา อย่าหนีปัญหา เผชิญปัญหาด้วยสติ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

     4.  ชีวิตไม่เที่ยง รักและดูแลตนเองรวมถึงคนในครอบครัวและคนรอบข้างให้มากขึ้น รู้จักให้อภัย ไม่ยึดติด ความรักความเมตตาจะเยียวยาทุกสิ่ง ใช้ชีวิตที่เหลือทำสิ่งที่ดีมีคุณค่าต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม ดิฉันขอขอบคุณคุณหมอผู้คิดค้นยาเทียนเซียน ขอขอบคุณผู้ที่นำยานี้เข้ามาจำหน่ายในไทย รวมถึงขอบคุณบุคลากรทุกท่าน ที่มีส่วนช่วยให้คนไทยได้รู้จักและได้รับประทานยาดีๆ แบบนี้

     สุดท้ายนี้ดิฉันอยากจะบอกทุกท่านว่า จงอย่ากลัวมะเร็ง ให้หมั่นเตือนตนเองว่า “มะเร็งหายได้ถ้าเราดูแลจนเองดี มีวินัยหายแน่นอน” จงหมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา บุญจะรักษา พระจะคุ้มครอง และเราจะก้าวผ่านโรคนี้ไปด้วยกันค่ะ หวังว่าข้อความของดิฉันจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านทุกท่าน ทั้งที่ยังไม่ป่วย เคยป่วย กำลังป่วย รวมถึงผู้ที่กำลังดูแลผู้ป่วยอยู่ พบกันใหม่เมื่อโอกาสอำนวย สวัสดีค่ะ

 

 

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook Tianxian herb
ปรึกษาผลิตภัณฑ์

กรุณากรอกแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง


รีวิวผู้ใช้

มะเร็งกับการรักษา

มะเร็งกับการดูแล

โดยตั้งแต่ปี 1998 บริษัท เฟยดา จำกัด สาขาประจำประเทศไทย เริ่มดำเนินงานนำเข้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายสมุนไพรเทียนเซียนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

อ่านต่อ >>

ผลิตภัณฑ์ของเรา

ยาน้ำเทียนเซียน

เอ็กซ์แทร็คท์ พลัส

นิทรา เฮอร์เบิล ฟุทโซค

ติดต่อเรา

02-264-2217,02-264-2218,
02-264-2219
เวลาทำการ 08.30 น.-17.00 น.
[email protected]
213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 สุขุมวิท 21 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110

Copyright © 2020 บริษัท เฟยดา จำกัด. All rights reserved.