อาการท้องมาน (Ascites) : สัญญาณเตือนในผู้ป่วยมะเร็งที่มีน้ำในช่องท้อง

12-Apr-2022     อ่าน : 9535 คน


 

อาการท้องมาน (Ascites) : สัญญาณเตือนในผู้ป่วยมะเร็งที่มีน้ำในช่องท้อง

อาการท้องมาน หรือ ภาวะน้ำในช่องท้อง คือภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งอาการท้องมาน อาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยมะเร็ง เช่น มะเร็งตับ มะเร็งรังไข่ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะเป็นสัญญาณของการสะสมของของเหลวในช่องท้อง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ เยื่อบุช่องท้องอักเสบ หรือความดันในช่องท้องสูง ทำให้ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์

สาเหตุของอาการท้องมานในผู้ป่วยมะเร็ง

  • มะเร็งอุดตันทางเดินน้ำเหลือง: มะเร็งบางชนิดสามารถอุดตันทางเดินน้ำเหลือง ส่งผลให้น้ำเหลืองไหลเวียนไม่สะดวก เกิดเป็นน้ำคั่งในช่องท้อง
  • ภาวะตับแข็ง: มะเร็งตับหรือมะเร็งที่ลุกลามไปยังตับ ส่งผลให้ตับทำงานผิดปกติ เกิดภาวะตับแข็ง และน้ำคั่งในช่องท้อง
  • ภาวะไตวาย: มะเร็งบางชนิดส่งผลต่อการทำงานของไต เกิดภาวะไตวาย และน้ำคั่งในช่องท้อง
  • ภาวะต่ำโปรตีน: มะเร็งบางชนิดส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีน เกิดภาวะต่ำโปรตีน ทำให้ความดันออสโมติกในเลือดต่ำ น้ำจากหลอดเลือดไหลออกมาสู่ช่องท้อง

อาการของอาการท้องมาน

  • หน้าท้องบวมโต โดยเฉพาะในช่วงล่าง
  • รู้สึกอึดอัดแน่นท้อง
  • เบื่ออาหาร
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • หายใจลำบาก
  • ขาบวม
  • น้ำหนักลด

การวินิจฉัยอาการท้องมาน

แพทย์จะวินิจฉัยอาการท้องมานโดย

  • ซักประวัติและตรวจร่างกาย
  • ตรวจวัดความดันโลหิต
  • ตรวจเลือด
  • ตรวจปัสสาวะ
  • อัลตราซาวด์ช่องท้อง
  • CT Scan หรือ MRI ช่องท้อง

การดูแลผู้ป่วยท้องมานที่บ้าน

  • ผู้ป่วยท้องมานควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะภาวะนี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือนำไปสู่โรคที่รุนแรงขึ้นได้ การดูแลที่บ้านสามารถช่วยบรรเทาอาการและเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้ ดังนี้
  • ควบคุมอาหาร ลดการรับประทานอาหารเค็มหรือโซเดียมสูง เพราะจะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำและทำให้น้ำในช่องท้องเพิ่มขึ้น ควรเลือกอาหารที่ปรุงสดใหม่และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป
  • จำกัดปริมาณน้ำดื่มตามคำแนะนำแพทย์ ผู้ป่วยบางรายอาจต้องจำกัดน้ำดื่มเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำในช่องท้องเพิ่มขึ้น แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นหลัก
  • สังเกตอาการผิดปกติ หากพบว่าท้องโตเร็วขึ้น หายใจลำบาก ปวดท้องมาก มีไข้สูง หรือมีอาการซึมลง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
  • การพักผ่อนและการออกกำลังกายเบา ๆ ควรให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนเพียงพอ และอาจทำกิจกรรมเบา ๆ เช่น เดินช้า ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายยังคงเคลื่อนไหว แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมากเกินไป
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะยาขับปัสสาวะหรือยาที่ช่วยควบคุมการสะสมของน้ำในร่างกาย ควรทานอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยาเอง
  • ดูแลด้านโภชนาการเสริม เลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนเพียงพอ เช่น เนื้อปลา เต้าหู้ ถั่ว เพื่อช่วยฟื้นฟูการทำงานของร่างกาย แต่ควรปรึกษาแพทย์หากมีโรคตับหรือไตที่ต้องควบคุมโปรตีน

การรักษาอาการท้องมาน

การรักษาอาการท้องมาน ขึ้นอยู่กับสาเหตุ โดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะรักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำคั่งในช่องท้อง ควบคู่กับการระบายน้ำออกจากช่องท้อง

  • การรักษามะเร็ง: การรักษามะเร็งที่เป็นสาเหตุ
  • การให้ยาขับปัสสาวะ: ช่วยขับน้ำออกจากร่างกาย
  • การเจาะระบายน้ำออกจากช่องท้อง: แพทย์จะเจาะเข็มผ่านหน้าท้องเพื่อระบายน้ำออก
  • การผ่าตัด: ในกรณีที่มีน้ำคั่งในช่องท้องมาก หรือรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล

การป้องกันอาการท้องมาน

  • รักษาโรคมะเร็งให้หายขาด
  • ควบคุมอาหาร จำกัดเกลือ ทานอาหารที่มีโปรตีนสูง
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • ติดตามอาการและพบแพทย์เป็นประจำ

อาการท้องมาน เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง ผู้ป่วยมะเร็งควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากพบความผิดปกติ รีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

 

 

 

ปรึกษาผลิตภัณฑ์ยาจีน

กรุณากรอกแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง


มะเร็งกับการรักษา

มะเร็งกับการดูแล

มะเร็งกับอาหาร