วิธีดูแลผู้ป่วยมะเร็งระบบทางเดินอาหาร

06-Nov-2012     อ่าน : 6271 คน


 

วิธีดูแลผู้ป่วยมะเร็งระบบทางเดินอาหาร

แนวทางการรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งระบบทางเดินอาหาร  คือ การผ่าตัดเป็นวิธีการหลัก ตามด้วยเคมีบำบัดควบคู่กับการใช้ยาจีน  หรือถ้าผู้ป่วยปฏิเสธเคมีบำบัดก็ให้ใช้ยาจีนอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายหรือการกำเริบซ้ำของโรคมะเร็ง เสริมประสิทธิผลการรักษาด้วยวิธีหลัก ฟื้นฟูสุขภาพ เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย

พฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้อง 

  1. มื้อเย็นไม่กินอิ่มไป  เพราะจะทำให้กระเพาะลำไส้รับภาระหนักและจะทำให้นอนไม่หลับ เมื่อหลับก็ฝันมาก  และเป็นการกระตุ้นให้มีการหลั่งสารอินซูลินมากเกินไป ง่ายจะเกิดโรคเบาหวานการกินอิ่มเกินไป สารโปรตีนไม่สามารถถูกย่อยให้หมด และสะสมในลำไส้ จุลินทรีในลำไส้จะก่อให้เกิดปฏิกิริยากลายเป็นสารพิษ  เมื่อเวลานอนหลับลำไส้เคลื่อนตัวช้าลง  สารพิษเหล่านี้จึงตกค้างอยู่ในลำไส้เป็นเวลานาน  เป็นสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดมะเร็งลำไส้
  2. อาหารมื้อเย็นหรือหลังอาหารเย็นไม่ควรทานของหวาน   เพราะการเผาผลาญของตับ  ไขมัน และในกล้ามเนื้อ  มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าเรากินน้ำตาลแล้วเข้านอนเลย การเผาผลาญไม่อาจดำเนินไปได้อย่างเต็มที่  ก็จะเกิดผลตรงกันข้าม ทำให้เราอ้วนขึ้นได้
  3. มื้อเย็นไม่ควรทานดึกเกินไป ปัจจุบันเนื่องจากหน้าที่การงานที่รัดตัว ทำให้คนส่วนหนึ่งทานมื้อเย็นในเวลาดึก  ทานเสร็จไม่นานก็เข้านอน ในขณะที่เราหลับการไหลเวียนของเลือดจะช้าลง  การขับถ่ายก็จะน้อยลง แต่ทว่าแคลเซียมและเกลือในอาหารที่เราทานเข้าไป ร่างกายจะดูดซึมไปใช้ไม่หมด ส่วนที่เหลือจะต้องถูกขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะ เมื่อหลับการขับถ่ายถูกยับยั้ง แคลเซียมและเกลือที่ตกค้างจะเข้มข้นขึ้น สามารถตกผลึกจับเป็นนิ่วได้ ดังนั้นในแต่ละวันควรดื่มน้ำให้เพียงพอ ทานมื้อเย็นให้เร็วขึ้น เพื่อให้ปัสสาวะที่มีสารพิษถูกขับออกจากร่างกายได้ทันการ ก่อนที่เราจะหลับ

อาหารที่ไม่ควรทานสำหรับผู้ป่วยมะเร็งทางเดินอาหาร

  1. งดอาหารที่บูดเน่า  ปนเชื้อรา
  2. งดอาหารเค็ม
  3. งดอาหารที่มีลักษณะกระตุ้น เช่น พริก  ยี่หร่า เป็นต้น
  4. งดเหล้าและบุหรี่
  5. หลังผ่าตัด ผู้ป่วยควรงดอาหารที่ทำให้ท้องอืด เช่น นม  น้ำตาล หรือเครื่องดื่มที่มีแก๊ส
  6. หลีกเลี่ยงอาหารรมควัน และ ของหมักดอง

อาหารที่ควรทานสำหรับผู้ป่วยมะเร็งทางเดินอาหาร

  1. เห็ดต่างๆ ตลอดจนถั่วแปบ  ลูกเดือย  ยาจีนซานเย่า  เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน
  2. กินผักผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามิน ซี  เอ  มีกากใย และแร่ธาตุต่างๆ
  3. เสริมด้วยอาหารด้วยทะเล
  4. ควรกินกระเทียมพอประมาณ  เพราะมีสารยับยั้งเซลล์มะเร็ง
  5. ผู้ป่วยที่ต้องทำเคมีบำบัด ควรเสริมด้วยอาหารยาจีนที่บำรุงม้ามกระเพาะอาหาร  บำรุงหล่อเลี้ยงตับไต  เช่น ลูกเดือย  พุทราแดง   ยาจีนซานเย่า สำหรับผู้ที่รับรังสีรักษา ควรเสริมอาหารดับร้อนถอนพิษ  เช่น แตงโม  สาลี่ เป็นต้น

หลักปฏิบัติ 6 ข้อ ในการป้องกันมะเร็งทางเดินอาหาร

  1. ทานอาหารที่มีสารบำรุงสูง และเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย  เนื้อสัตว์จากปลา  ไก่ดำ
  2. ทานอาหารที่มีสรรพคุณเสริมภูมิคุ้มกัน เช่นยาจีนซานเหย้า  ถั่วแปบ  ลูกเดือย เห็ดหอม เมล็ดทานตะวัน  กีวี  เป็นต้น
  3. ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะและลำไส้ส่วนใหญ่ต้องเข้ารับเคมีบำบัด  ควรเลือกใช้ยาสมุนไพรและอาหารที่สามารถป้องกันและบรรเทาอาการข้างเคียง เช่น ลูกกีวี  หน่อไม้ฝรั่ง ลำไย  ลูกท้อ
  4. ทานอาหารที่มีสรรพคุณบรรเทาอาหารปวดท้อง เช่น ลูกกิมกิ(ส้มลูกเล็ก) ปลิงทะเล  กะหล่ำปลี  เป็นต้น
  5. ทานอาหารที่ช่วยแก้อาการท้องผูก  เช่น น้ำผึ้ง  สาหร่ายม่วง กล้วยหอม  ลูกสมอ  บ๊วยดำ เห็ดหูหนู  เป็นต้น
  6. ทานอาหารที่ช่วยแก้อาการคลื่นไส้  อาเจียน เช่น ส้ม ลูกท้อ  น้ำต้มดอกกุหลาบ  เป็นต้น

ยาจีนมีผลดีต่อมะเร็งทางเดินอาหารอย่างไร

  1. การรักษาด้วยยาจีน เป็นการรักษาแบบองค์รวม  รักษาทั้งแก่นแท้และอาการ เป้าหมายการรักษาเพื่อยกระดับสมรรถภาพภูมิคุ้มกันของร่างกาย เช่น กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว  เพิ่มปริมาณเซลล์พิฆาต  เสริมประสิทธิภาพการกลืนกินของเซลล์   เพื่อการสร้างตัวแอนตี้บอดี้  และยังมีบทบาทปกป้องไขกระดูกเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการสร้างเม็ดเลือด
  2. เป็นการเติมเต็มการรักษาด้วยการผ่าตัด  เพราะการผ่าตัดแม้จะสามารถผ่าเอาก้อนเนื้อออกไปแต่ยังคงมีเซลล์มะเร็งตกค้างอยู่ หรือมีการกระจายไปสู่ต่อมน้ำเหลืองที่มองไม่เห็น และเซลล์มะเร็งที่เล็ดรอดเข้าสู่หลอดเลือด  ดังนั้นการใช้ยาจีนบำบัดอย่างต่อเนื่อง จะสามารถป้องกันการกำเริบซ้ำและการแพร่กระจายได้
  3. บรรเทาผลข้างเคียงจากเคมีบำบัดและรังสีรักษา  การทานยาจีน 5-7 วันก่อนคีโมบำบัดหรือรังสีรักษา จะช่วยให้ผู้ป่วยทนต่ออาการข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นได้ ทำให้คีโมบำบัดหรือรังสีรักษาผ่านไปได้อย่างราบรื่น   และยังเป็นการเสริมประสิทธิผลการรักษาด้วยแผนหลัก เช่น การผ่าตัด อีกด้วย
  4. ยาจีนช่วยแก้ไขอาการอันไม่พึงประสงค์ เช่น อาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ  และช่วยลดไข้
  5. ปรับสภาวะร่างกาย ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น  การใช้ยาจีนรักษาเป็นแนวการรักษาแบบองค์รวม แม้ว่าเนื้อร้ายจะเกิดอยู่เฉพาะที่  แต่สาเหตุที่แท้นั้นเป็นโรคลักษณะทั่วร่างกาย  ผู้ป่วยส่วนมากถ้าบำบัดเฉพาะที่  มักไม่อาจรักษาถึงแก่นได้ ดังนั้นการรักษาตามทฤษฏีแพทย์จีน นอกจากการบำบัดโรคเฉพาะที่แล้ว ยังต้องใช้วิธีการในค้ำจุนพลังชีวิตและลมปราณหลักของร่างกายด้วย  นอกจากแก้ปัญหาเฉพาะจุดแล้ว  ยังเป็นการปรับแก้ไขสภาพทั่วร่างกายให้แข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย
  6. ปรับเสริมสมรรถภาพภูมิคุ้มกัน  ถ้าร่างกายแข็งแรง  โอกาสที่จะหายจากมะเร็งก็เป็นไปได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : แพทย์จีน มาลิน  ปิยะชินวรรณ

ศูนย์สุขภาพครอบครัวเทียนเซียน

 

 

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook Tianxian herb
ปรึกษาผลิตภัณฑ์

กรุณากรอกแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Tag ที่เกี่ยวข้อง

ความรู้มะเร็ง การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง มะเร็งระบบทางเดินอาหาร

มะเร็งกับการดูแล

มะเร็งกับการรักษา

มะเร็งกับอาหาร

โดยตั้งแต่ปี 1998 บริษัท เฟยดา จำกัด สาขาประจำประเทศไทย เริ่มดำเนินงานนำเข้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายสมุนไพรเทียนเซียนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

อ่านต่อ >>

ผลิตภัณฑ์ของเรา

ยาน้ำเทียนเซียน

เอ็กซ์แทร็คท์ พลัส

นิทรา เฮอร์เบิล ฟุทโซค

ติดต่อเรา

02-264-2217,02-264-2218,
02-264-2219
เวลาทำการ 08.30 น.-17.00 น.
[email protected]
213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 สุขุมวิท 21 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110

Copyright © 2020 บริษัท เฟยดา จำกัด. All rights reserved.