มะเร็งกับความเสี่ยงของผู้หญิง

มะเร็งกับความเสี่ยงของผู้หญิง - มะเร็งนรีเวช

12-Oct-2022 อ่าน : 150 คน

หลายสิบปีที่ผ่านมา โรคร้ายแรงที่สุดที่คร่าชีวิตผู้หญิงเราเป็นจำนวนมากคงหนีไม่พ้น “โรคมะเร็ง” และมะเร็งนรีเวชก็มีอัตราการเสียชีวิตสูงมากๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งเนื้องอก มะเร็งมดลูก และมะเร็งปากช่องคลอด เพราะผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งนรีเวชเหล่านี้ด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นเราจึงต้องใส่ใจในการดูแลตัวเองและเข้ารับการตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ กันดีกว่า

มะเร็งนรีเวช คืออะไร?

คือโรคมะเร็งที่เริ่มต้นจากอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของอวัยะสืบพันธุ์ แต่จะมีอาการ สัญญาณเตือน และปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในแต่ละจุดแตกต่างกันออกไป

สัญญาณเตือนของมะเร็งนรีเวช…ที่ผู้หญิงต้องระวัง

ยิ่งอัตราการเกิดโรคมะเร็งนรีเวชเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ผู้หญิงเราก็ยิ่งต้องสังเกตตัวเองให้มากขึ้น เพราะหากตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ โอกาสหายจากโรคนี้ก็ยังมีอยู่เสมอ ดังนั้นต้องลองสังเกตดูว่าเรามีอาการผิดปกติเช่นนี้หรือไม่

1. มีเลือดออกที่ช่องคลอด : ให้สังเกตดูสีของเลือด หรืออาจเป็นตกขาวที่ปนเลือด ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งนรีเวชหลายอย่าง เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกหรือมดลูก มะเร็งช่องคลอด เป็นต้น

2. มีอาการปวดบริเวณเชิงกราน : มีอาการปวดเป็นประจำ หรือเป็นๆ หายๆ ลักษณะเช่นนี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นของมะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกหรือมดลูก มะเร็งปากช่องคลอด

3. มีอาการปวดที่ช่องท้อง ท้องบวม หรือปวดหลังบ่อยๆ : อาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งรังไข่

4. มีลักษณะผิดปกติที่ปากช่องคลอด : เช่น ขึ้นผื่น เกิดอาการแสบหรือคัน มีไฝหรือหูดขึ้น อาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งปากช่องคลอด

แนวทางการรักษา

เริ่มต้นเลย หากพบอาการผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น ลองสังเกตอย่างต่อเนื่อง หากอาการที่เป็นลุกลามมากขึ้น หรือเป็นต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์และยังไม่หาย ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติเป็นการด่วน ทั้งนี้ยังควรตรวจภายในทุกปี เพราะการทราบอาการตั้งแต่เนิ่นๆ ก็มีโอกาสรักษาให้หายขาดได้สูงกว่า

ดังนั้น จึงจำเป็นที่ผู้หญิงทุกคนต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติของตนเอง และไม่ประมาทในการใช้ชีวิต เช่น มะเร็งปากมดลูก สามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจแปปสเมียร์ หรือตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในทุกปี แต่ยังมีผู้หญิงไทยอีกกว่า 30% ไม่เคยเข้ารับการตรวจนี้เลย

นอกจากนี้ ก็มีการป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อไวรัส HPV: Human Papilloma Virus ซึ่งมีระยะเวลาการติดเชื้อจนเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็งประมาณ 10-15 ปี รวมถึงเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน และควรสวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV จากการสัมผัสโดยตรง

ผู้หญิงทุกคน ควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะระบบสืบพันธุ์ ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำจิตใจให้สดใส นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หากพบอาการผิดปกติกับร่างกายก็ไม่ควรปล่อยปละละเลย ควรรีบปรึกษาแพทย์ให้เร็วจะดีที่สุด

ขอขอบคุณข้อมูล โรงพยาบาลเปาโล