ผู้คิดค้นตำรับเทียนเซียน
ศาสตราจารย์ หวัง เจิ้น กั๋ว
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยมะเร็ง โรงพยาบาลมะเร็งเจิ้นกั๋ว ปักกิ่ง
ผู้คิดค้นตำรับสมุนไพรจีน “เทียนเซียน”
ศาสตราจารย์ หวัง เจิ้น กั๋ว แพทย์นักวิจัยด้านมะเร็ง เกิดที่เมืองทงฮว่า มณฑลจี๋หลิน สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อ ปี ค.ศ.1954 สำเร็จการศึกษาจบการศึกษาจากวิทยาลัยแพทย์ทงฮว่า เมื่อปี 1975
ตั้งปณิธานเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง
เดือนตุลาคม 1972 ระหว่างที่เป็นแพทย์ฝึกหัดที่ โรงพยาบาลลิ่วต้าวกัว เมืองทงฮว่า เพียงวันแรกก็ตกใจและเสียใจกับผู้ป่วยมะเร็งรายหนึ่งที่ช่วยไม่ได้ จึงตั้งปณิธานกับตนเองที่จะใช้ความรู้ความสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งให้ได้ โดยสิ่งที่นึกถึงในตอนนั้น คือ สมุนไพรจีน ซึ่งมีมากมายบนเทือกเขาฉางไป๋ ในทงฮว่าบ้านเกิด
กว่าจะมาเป็นยาสมุนไพรจีน "เทียนเซียน"
ประสบการณ์ค้นคว้าเกือบ 20 ปี ของ ศาสตราจารย์ หวัง เจิ้น กั๋ว
หลังจาก ศาสตราจารย์ หวัง เจิ้น กั๋ว ได้พบกับความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยมะเร็ง จากความคุ้นเคยกับสมุนไพรจีน และการที่วิทยาลัยสาธารณสุขได้อนุญาตให้ศึกษาแพทย์แผนจีนกับแพทย์แผนปัจจุบันควบคู่กันไป ทำให้ท่านเกิดความคิดว่า “จะใช้ตำรับยาจีน ซึ่งปรุงจากสมุนไพรที่ตนคุ้นเคยมาบำบัดรักษาโรคมะเร็ง”
ศาสตราจารย์ หวัง เริ่มต้นรวบรวมสมุนไพร ตำรับยาและกรรมวิธีรักษาแบบพื้นบ้านที่ได้รับคำร่ำลือว่าใช้ได้ผลกับเนื้องอกเป็นอันดับแรก โดยตระเวนไปตามแหล่งต่าง ๆ เพื่อเก็บรวบรวมตำรับยาและสมุนไพร ใช้เวลาประมาณ 6-7 ปี จำนวนสมุนไพรและตำรับยาที่เก็บไว้ก็มีมากถึง 1,200 ชนิด ท่านได้นำมาพัฒนาต่อโดยอาศัยภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อนเป็นพื้นฐาน ประสานกับประสบการณ์ของคนรุ่นหลัง แล้วนำมาประยุกต์ใช้กับปัจจุบัน พัฒนาจนยาสำเร็จรูป
ศาสตราจารย์ หวัง อาศัยหลักการของแพทย์แผนจีนที่เรียกว่า เปี้ยนเจิ้งลุ่นจื้อ (辩证轮治) ซึ่งเป็นการตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียดแล้วกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสม ยึดแนวทางการรักษาแบบองค์รวม รักษาสิ่งที่ดีไว้และขจัดของเสียที่เป็นพิษออกไป พร้อมปรับสมดุลของร่างกาย ได้แบ่งแนวทางการรักษามะเร็งเป็น 4 แนวทาง ดังนี้
1) ขับร้อนถอนพิษ
2) กระจายเลือดคั่ง ทำให้เลือดไหลเวียนได้คล่อง
3) สลายก้อนเนื้อ ช่วยระงับปวด
4) เสริมชี่ บำรุงเลือด เสริมหยวนชี่ในร่างกาย
การรักษามะเร็งของการแพทย์จีนที่ทำโดยยึดมุมมองดังกล่าวนี้ เป็นการปรับ และ รักษาอาการของโรคมะเร็งที่ได้ผล
.jpg)
.jpg)
เส้นทางความสำเร็จ
ศาสตราจารย์ หวัง เจิ้น กั๋ว เริ่มต้นค้นคว้าสมุนไพรจีนตั้งแต่เป็นแพทย์ฝึกหัด เก็บรวบรวมพืชสมุนไพรกว่า 1200 ชนิด ทดลองผสมเป็นตำรับยา 23 ครั้ง จนในที่สุดได้เป็นตำรับยาเทียนเซียน
- สิงหาคม ปี 1983 ประสบผลสำเร็จได้เป็นตำรับยาเทียนเซียน
- ปี 1986 ตำรับยา ได้รับการสนับสนุนเป็นโครงการวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากภาครัฐ เพื่อพัฒนาตำรับยาอย่างต่อเนื่อง
- สิงหาคม ปี 1988 ตำรับยาเทียนเซียน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาต้านมะเร็ง ที่ผ่านการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุข สาธารณรัฐประชาชนจีน
- ปี 1991 เริ่มต้นจัดจำหน่ายไปหลายประเทศ โดยผู้แทนจำหน่าย บริษัท ไชน่า-เจแปน เฟยดา
.jpg)
รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
(1) ธันวาคม 1989 ตำรับยาเทียนเซียน ได้รับ 3 เหรียญรางวัล จากเวทีประกวดผลงานวิจัยและนวัตกรรมนานาชาติ บรัชเซล ยูเรก้า ครั้งที่ 38 (The 38th Brussels Eureka World Invention Expo) ณ กรุงบรัซเซล ประเทศเบลเยี่ยม
(2) ปี 1990 ได้รับรางวัล ผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหม่ที่มีผลงานโดดเด่นของจีน , รางวัล 1 ใน 10 คนรุ่นใหม่ของจีน , รางวัลผู้เป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ด้วยตำรับยาที่มีประสิทธิผล จึงมีหลายสถาบันในหลายประเทศ อาทิ
- โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (National Taiwan University Hospital)
- สถาบันวิจัยสุขภาพแห่งชาติไต้หวัน (The National Health Research Institutes)
- ศูนย์วิจัยและพัฒนายาใหม่ ฮอกไกโด ญี่ปุ่น (New Drug Development Research Center Inc)
- วิทยาลัยแพทย์แผนจีน แห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกง (School of Chinese Medicine, the University of Hong Kong)
ได้นำตำรับยานี้ไปศึกษาวิจัย จนมีผลงาน 24 หัวข้อการวิจัย ที่ได้รับการตีพิมพ์วารสารทางการแพทย์แล้ว 16 ฉบับ และตั้งแต่ปี 2011 ตำรับยาสมุนไพรจีนของ ศาสตราจารย์ หวัง เจิ้น กั๋ว ยังได้รับการบรรจุในสารานุกรมยา ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติอเมริกา
ศาสตราจารย์ หวัง เจิ้น กั๋ว ได้รับเชิญไปกว่า 17 ประเทศ ทั้งใน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวแลกเปลี่ยนความรู้ในการวิจัยสมุนไพรเพื่อดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ยังได้ร่วมกับ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ฝรั่งเศส , โรงพยาบาล St.Gallen ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, สถาบันที่เชี่ยวชาญมะเร็งในประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างห้องปฏิบัติ สร้างความแข็งแกร่งให้แก่ด้านวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น จนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เทียนเซียน โดย ของศาสตราจารย์ หวัง เจิ้น กั๋ว ได้ให้การดูแลผู้ป่วยมะเร็งมาแล้วนับแสนคน ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
