เช็คให้ดี เป็นแค่ถุงน้ำหรือมะเร็งรังไข่?

13-Nov-2019 อ่าน : 1304 คน

เช็คให้ดี เป็นแค่ถุงน้ำหรือมะเร็งรังไข่?

ถุงน้ำรังไข่ เป็นเนื้องอกที่พบได้บ่อยในผู้หญิง มักไม่ใช่เนื้อร้าย แต่บางกรณีอาจพัฒนาเป็นมะเร็งรังไข่ได้ การรู้จักสังเกตสัญญาณเตือน และรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รักษาได้ทันท่วงที

สัญญาณเตือนมะเร็งรังไข่

ปวดท้องน้อย: ปวดท้องน้อยเป็นอาการที่พบบ่อยของมะเร็งรังไข่ มักปวดแบบเรื้อรัง ปวดเสียด หรือปวดตื้อ
ท้องอืด: รู้สึกอิ่มเร็ว แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย
คลื่นไส้ อาเจียน: คลื่นไส้ อาเจียนโดยไม่มีสาเหตุ หรือคลื่นไส้ อาเจียนหลังทานอาหาร
เบื่ออาหาร: น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
ปัสสาวะบ่อย: รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย หรือปัสสาวะกะปริดกะปรอย
ท้องผูก: ท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายอุจจาระลำบาก
มีเลือดออกผิดปกติ: มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเลือดออกกะปริดกะปรอย
ปวดหลัง: ปวดหลังเรื้อรัง หรือปวดหลังร้าวลงขา
อ่อนเพลีย: รู้สึกอ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่มีแรง

การตรวจวินิจฉัยมะเร็งรังไข่

การตรวจร่างกาย: แพทย์จะตรวจร่างกายเพื่อหาสัญญาณของโรค เช่น ก้อนเนื้อที่ท้องน้อย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ: ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ
การตรวจทางภาพ: อัลตราซาวด์ แมมโมแกรม เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ MRI
การตรวจชิ้นเนื้อ: เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง

ปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งรังไข่

อายุ: มักพบในผู้หญิงวัยกลางคนและวัยชรา
ประวัติครอบครัว: มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่
การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม: มีการกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 หรือ BRCA2
ภาวะมีบุตรยาก: ไม่เคยตั้งครรภ์ หรือมีบุตรน้อย
การใช้ฮอร์โมนเพศหญิงชนิดรับประทาน: ทานยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานเป็นเวลานาน
โรคอ้วน: ดัชนีมวลร่างกาย (BMI) มากกว่า 25

การป้องกันมะเร็งรังไข่

ทานอาหารครบ 5 หมู่: เน้นผักผลไม้ ธัญพืช โปรตีนไขมันต่ำ
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์
ลดน้ำหนัก: ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
งดสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งรังไข่
จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งรังไข่
ปรึกษาแพทย์: หากมีปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งรังไข่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนป้องกัน

การรักษามะเร็งรังไข่

การรักษามะเร็งรังไข่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะของโรค ชนิดของมะเร็ง สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย และความต้องการของผู้ป่วย โดยทั่วไป วิธีการรักษาหลักๆ ประกอบไปด้วย

1. การผ่าตัด

การผ่าตัดตัดรังไข่: เป็นวิธีการรักษาหลักสำหรับมะเร็งรังไข่ระยะเริ่มต้น แพทย์จะผ่าตัดเอาเนื้อรังไข่ และอาจรวมไปถึงมดลูก ต่อมน้ำเหลือง และเนื้อเยื่อใกล้เคียงที่ติดเชื้อมะเร็ง
การผ่าตัดลดขนาดเนื้องอก: สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการมีบุตร แพทย์อาจผ่าตัดเอาเนื้องอกออก โดยคงรังไข่ข้างที่ไม่ได้เป็นมะเร็งไว้

2. เคมีบำบัด

เคมีบำบัดเฉพาะที่: ใช้ยาฆ่าเซลล์มะเร็งทั้งร่างกาย มักใช้หลังการผ่าตัดเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งที่อาจหลงเหลืออยู่
เคมีบำบัดแบบฉีดเข้าช่องท้อง: ใช้ยาฆ่าเซลล์มะเร็งโดยฉีดเข้าช่องท้องโดยตรง มักใช้สำหรับผู้ป่วยที่มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะในช่องท้อง

3. รังสีรักษา

รังสีรักษาแบบฉายภายนอก: ใช้รังสีพลังงานสูงยิงไปยังเนื้องอก
รังสีรักษาแบบสอดใส่ช่องคลอด: ใช้แหล่งกำเนิดรังสีขนาดเล็กสอดใส่ช่องคลอดเพื่อฉายรังสีไปยังเนื้องอก

4. การรักษาแบบมุ่งเป้า

ยาต้านทานการเจริญเติบโตของหลอดเลือด: ยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ที่เลี้ยงเซลล์มะเร็ง
ยาภูมิคุ้มกันบำบัด: กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง

ผลข้างเคียงของการรักษามะเร็งรังไข่

ผลข้างเคียงของการรักษามะเร็งรังไข่ ขึ้นอยู่กับวิธีการรักษา โดยทั่วไป อาจมีผลข้างเคียงดังนี้